| 
 | 
| 
 | คำปฏิญาณของลูกเสือไทย | ข้อเตือนใจจากที่อื่นๆ | วรรณคดีไทยร้อยกรอง|โคลงพระราชพงศาวดาร|  | 
นิทราชาคริต (ความตอนต้น)
| ๒. เปรมจิตปราศจากเศร้า | สิ่งศัลย์ สรรพเทอญ | 
| ทั่วนครขอบขัณฑ์ | เขตด้าว | 
| เจริญสุขทุกคืนวัน | วายเทวษ | 
| ปล่งปลอดปรปักษ์ก้าว | เกี่ยงพ้นภัยกษัย | 
| ๓. ไพบูลย์สมบัติถ้วน | ทวยชน ชื่นเทอญ | 
| ประกอบกิจเกิดนิตยผล | แผ่หล้า | 
| บำเทิงทั่วภูวมณ | ฑลเกษตร สยามเอย | 
| จงประสิทธิ์ประสงค์ข้า | คิดต้องคลองธรรม์ | 
ร่าย
โคลง ๔
| ๖. ฮารูนอาลราษุจิดอ้าง | องค์นรินทร์ นามฤา | 
| กาหลิบครองแผ่นดิน | ดับร้อน | 
| วงศ์เนื่องแต่มุนินทร์ | มะหะหมัด | 
| ผดุงราษฎร์ศาสนาซ้อน | เชิดไว้จิรกาล | 
| ๗. เปรียบปานบิตุเรศเลี้ยง | ดนัย นั่นแฮ | 
| กอบกิจการุณย์ไป | ทั่วผู้ | 
| สอดส่องประสบใคร | ดีชั่ว | 
| ลงโทษโปรดยกกู้ | ก่อให้สำราญ | 
ร่าย
ฯลฯ
ร่าย
โคลง ๔
| ๕๘. แบบฉบับไก่ผู้ผ่าว | กรรหาย ชลเฮย | 
| บด่วนดื่มเดียวดาย | เรียกร้อง | 
| ภรรยาเพื่อนฝูงหลาย | ตัวต่อ พร้อมแฮ | 
| จึ่งเสพสลิลซ้อง | ดั่งนี้เราเชิญ | 
| ๕๙. ฟังเพลินไพเราะแท้ | วาจา ท่านนา | 
| มรรยาทยิ่งอย่างหา | ยากล้ำ | 
| เป็นที่ถูกหฤทยา | เรายิ่ง รักแฮ | 
| เชิญท่านรินส่งซ้ำ | ส่วนให้เรากิน | 
| ๖๐. รินแล้วส่งถ้วยท่าน | จงลอง ชิมเทอญ | 
| คงจะสบสมปอง | เอกแท้ | 
| กาหลิบรับถ้วยสนอง | คำตอบ | 
| อย่างท่านมีของแม้ | ชั่วแล้วมีไย | 
| ๖๑. แม้ไฉนเรือนข้าจัก | เจรจา ได้ฤา | 
| ยลท่านประเวศมา | หยุดยั้ง | 
| โดยเปรมกระมลปรา | โมทย์ชื่น ชมแฮ | 
| จักจรดเศียรตั้ง | ต่อพื้นอัญชลี | 
| ๖๒. ยินดีเพื่อด้วยท่าน | มาพัก | 
| มีโอษฐจะทายทัก | ท่านจ้อ | 
| จัดโต๊ะแต่งตั้งตัก | เตือนท่าน เสพนา | 
| เสมอจิตเราฤาท้อ | เทียบให้เล็งเห็น | 
ตอนอาบูเมายา
| ๒๗๒. บารมีพระมากพ้น | รำพัน | 
| พระพิทักษ์ยุติธรรม์ | ถ่องแท้ | 
| บริสุทธิ์ดุจดวงตะวัน | ส่องโลก ไซร้แฮ | 
| ทวยราษฎร์รักบาทแม้ | ยิ่งด้วยบิตุรงค์ | 
| ๒๗๓. ยืนยงจงรักเบื้อง | บาทมูล ท่านเอย | 
| ข้าบาทราชนิกูล | ใหญ่น้อย | 
| พระสนมสนิทพูน | พิศวาส ท่านนา | 
| ความเคียดเกียจคร้านก้อย | กึ่งนั้นฤามี | 
| ๒๗๔. เจริญศรีชนม์ชีพยั้ง | ยืนนาน ยิ่งเทอญ | 
| พระพละปฏิภาณ | จุ่งแผ้ว | 
| ดำรงสิริราชฐาน | สมบัติ | 
| ทอนทุกข์สุขสวัสดิ์แคล้ว | คลาดพ้นพรรค์ภัย | 
โคลง ๓
| ๒๗๕. อาบูใจเบิกบาน | ฟังขับขานเพราะพร้อง | 
| ยกยศยิ่งใหญ่ต้อง | จิตเพี้ยงของหวาน | 
| ๒๗๖. เสียงบรรสานจับปี่ | เรื่อยระรี่รับร้อง | 
| กลมกล่อมซ้อมเสียงซ้อง | ซาบซึ้งซึมใจ ยิ่งนา | 
ร่าย
ลิลิตตะเลงพ่าย (ความตอนต้น)
| ๒. บุญเจ้าจอมภพพื้น | แผ่นสยาม | 
| แสยงพระยศยินขาม | ขาดแกล้ว | 
| พระฤทธิ์ดังฤทธิ์ราม | รอนราพณ์ แลนา | 
| ราญอริราชแผ้ว | แผกแพ้ทุกภาย | 
| ๓. ไพรินทรนาศเพี้ยง | พลมาร | 
| พระดั่งองค์อวตาร | แต่กี้ | 
| แสนเศิกห่อนหาญราญ | รอฤทธิ์ พระนา | 
| ดาล์ตระดกเดชลี้ | ประลาดหล้าแหล่งสถาน | 
| ๔. เสร็จเสวยศวรรเยศอ้าง | ไอศูรย์ สรวงฤา | 
| เย็นพระยศปูนเดือน | เด่นฟ้า | 
| เกษมสุขสองสมบูรณ์ | บานทวีป | 
| สว่างทุกข์ทุกธเรศหล้า | แหล่งล้วนสรรเสริญ | 
ลิลิตตะเลงพ่าย (บทอาขยาน)
โครง ๔
| ๗๙. มาเดียวเปลี่ยว อก อ้า | อายสู | 
| สถิตอยู่เอ้องค์ดู | ละห้อย | 
| พิศโพ้นพฤกษ์พบู | บานเบิก ใจนา | 
| พลางคะนึงนุชน้อย | แน่งเนื้อนวลสงวน | 
| ๘๐. พระครวญพระร่ำไห้ | โหยหา | 
| พลางพระพิศพฤกษา | กิ่งเกี้ยว | 
| กลกรกนิษฐนา | รีรัตน์ เรียมฤา | 
| ยามตระกองกอดเกี้ยว | โอบอ้อมองค์เรียม | 
| ๘๑. เฌอปรางเปรียบนาฏน้อง | นวลปราง | 
| รักดั่งรักนุชพาง | พี่ม้วย | 
| ช้องนางเฉกช้องนาง | คลายคลี่ ลงฤา | 
| โศกพี่โศกสมด้วย | ดั่งไม้นามมี | 
| ๘๒. อบเชยอบชื่นชี้ | เฌอสม ญาฤา | 
| อบว่าอรอบรม | รื่นเร้า | 
| อบเชยพี่เชยชม | กลิ่นอบ เฌอนา | 
| อบดั่งอบองค์เจ้า | จักให้เรียมเชย | 
| ๘๓. ขานางนึกคู่คู้ | ขาสมร | 
| พลางพี่โอบเอวอร | แอบเคล้า | 
| กระทุ่มดั่งทุ่มกร | ตีอก เรียมฤา | 
| เกดว่าเกศนุชเกล้า | กลิ่นกลั้วเสาวคนธ์ | 
| ๘๔. เล็บมือนางนี้หนึ่ง | นขา นางฤา | 
| ต้องดั่งต้องบุษบา | นิ่มน้อง | 
| ชงโคคิดชงฆา | นุชนาฏ เหมือนฤา | 
| เรียมระเมียงเดื่อปล้อง | ดั่งปล้องศอสมร | 
| ๘๕. ซ่อนกลิ่นกลิ่นแก้วซ่อน | นาสา เรียมฤา | 
| ตาดว่าตาดพัสตรา | หนุ่มเหน้า | 
| สลาลิงเล่ห์ซองสลา | นุชเทียบ ถวายนา | 
| สวาดดั่งเรียมสวาทเจ้า | จากแล้วหลงครวญ | 
| ๘๖. สลัดไดใดสลัดน้อง | แหนงนอน ไพรฤา | 
| เพราะเพื่อมาราญรอน | เศิกไซร้ | 
| สละสละสมร | เสมอชื่อ ไม้นา | 
| นึกระกำนามไม้ | แม่นแม้นทรวงเรียม | 
| ๘๗. ไม้โรกเหมือนโรคเร้า | รุมกาม | 
| ไฟว่าไฟราคลาม | ลวกร้อน | 
| นางแย้มหนึ่งแย้มยาม | เยาว์ยั่ว แย้มฤา | 
| ตูมดั่งตูมตีข้อน | อกอั้นกันแสง | 
| ๘๘. สายหยุดยุดกลิ่นฟุ้ง | ยามสาย | 
| สายบ่หยุดเสน่หาย | ห่างเศร้า | 
| กี่คืนกี่วันวาย | วางเทวษ ราแม่ | 
| ถวิลทุกขวบค่ำเช้า | หยุดได้ฉันใด | 
| ๘๙. สุกรมกรมสุขไซร้ | ไป่มี | 
| กรมแต่ทุกขเทวษทวี | ห่อนเว้น | 
| นมสวรรค์นึกบัวศรี | เสาวภาคย์ พี่เอย | 
| ถวิลบ่เคยขาดเคล้น | คลาดน้องใครถนอม | 
| ๙๐. โกสุมชุมช่อช้อย | อรชร | 
| เผยผกาเกสร | ยั่วแย้ม | 
| รวยรื่นรสคนธ์ขจร | จังหวัด ไพรนา | 
| กลิ่นตระการกลแก้ม | เกศแก้วกูสงวน | 
โคลง ๔
| ๓๐๑. นฤบาลบพิตรเผ้า | ภูวนา ยกแฮ | 
| ผายสีหนาทกถา | ท่านพร้อง | 
| ไพเราะราชสุภา | ษิตสื่อ สารนา | 
| เสนอบ่มีข้อข้อง | ขุ่นแค้นคำไข | 
| ๓๐๒. อ้าไทภูธเรศหล้า | แหล่งตะเลง โลกฤา | 
| เผยพระยศยินเยง | ย่านแกล้ว | 
| สิบทิศทั่วลือละเวง | หวั่นเดช ท่านนา | 
| ไป่เริ่มรอฤทธิแผ้ว | เผือดกล้าแกลนหนี | 
| ๓๐๓. พระพี่พระผู้ผ่าน | ภพอุต ดมเอย | 
| ไป่ชอบเชษฐ์ยืนหยุด | ร่มไม้ | 
| เชิญราชร่วมคชยุทธ์ | เผยอเกียรติ ไว้แฮ | 
| สืบกว่าสองเราไสร้ | สุดสิ้นฤามี | 
| ๓๐๔. หัสดีรณเรศอ้าง | อวสาน นี้นา | 
| นับอนาคตกาล | ห่อนฟ้อง | 
| ขัตติยายุทธ์บรรหาร | คชคู่ กันแฮ | 
| คงแต่เผือพี่น้อง | ตราบฟ้าดินกษัย | 
| ๓๐๕. ไว้เป็นมหรสพซ้อง | สุขศานติ์ | 
| สำหรับราชสำราญ | เริ่มรั้ง | 
| บำเทิงหฤทัยบาน | ประติยุทธ์ นั้นนา | 
| เสนอเนตรมนุษย์ตั้ง | แต่หล้าเลอสรวง | 
| ๓๐๖. ปวงไท้เทเวศทั้ง | พรหมาน | 
| เชิญประชุมในสถาน | ที่นี้ | 
| ชมชื่นคชรำบาญ | ตูต่อ กันแฮ | 
| ใครเชี่ยวใครชาญชี้ | ชเยศอ้างอวยเฉลิม | 
| ๓๐๗. หวังเริ่มคุณเกียรติก้อง | กลางรงค์ | 
| ยืนพระยศอยู่คง | คู่หล้า | 
| สงครามกษัตริย์ทรง | ภพแผ่น สองฤา | 
| สองราชรอนฤทธิ์ร้า | เรื่องรู้สรเสริญ | 
| ๓๐๘. ดำเนินพจพากย์พร้อง | พรรณนา | 
| องค์อัครอุปราชา | ท่านแจ้ง | 
| กอบเกิดขัตติยมา | นะนึก หาญเฮย | 
| ขับคชเข้ายุทธ์แย้ง | ด่วนด้วยโดยถวิล | 
| ๓๐๙. หัสดินปิ่นธเรศไท้ | โททรง | 
| คือสมิทธิมาตงค์ | หนึ่งอ้าง | 
| หนึ่งคือคิริเมขล์มง | คลอาสน์ มารเอย | 
| เศียรส่ายหงายงาคว้าง | ไขว่แคว้งแทงโถม | 
| ๓๑๐. สองโจมสองจู่จ้วง | บำรู | 
| สองขัตติยสองขอชู | เชิดด้ำ | 
| กระลึงกระลอกดู | ไวว่อง นักนา | 
| ควาญขับคชแข่งค้ำ | เข่นเขี้ยวในสนาม | 
| ๓๑๑. งามสองสุริยราชล้ำ | เลอพิศ นาพ่อ | 
| พ่างพัชรินทรไพจิตร | ศึกสร้าง | 
| ฤารามเริ่มรณฤทธิ์ | รบราพณ์ แลฤา | 
| ทุกเทศทุกทิศอ้าง | อื่นไท้ไป่เทียม | 
| ๓๑๒. ขุนเสียมสามารถต้าน | ขุนตะเลง | 
| ขุนต่อขุนไป่เยง | หย่อนห้าว | 
| ยอหัตถ์เทิดลบองเลบง | อังกุส ไกวแฮ | 
| งามเร่งงามโทท้าว | ท่านสู้ศึกสาร | 
| ๓๑๓. คชยานขัตติเยศเบื้อง | ออกถวัลย์ | 
| โถมประทะไป่ทัน | เหยียบยั้ง | 
| สารทรงราชรามัญ | ลงล่าง แลนา | 
| เสยส่ายท้ายทันต์ทั้ง | คู่ค้ำคางเขิน | 
| ๓๑๔. ดำเนินหนุนถนัดได้ | เชิงชิด | 
| หน่อนเรนทรทิศ | ตกด้าว | 
| เสด็จแสดงวราฤทธิ์ | รำร่อน ขอแฮ | 
| ฟอนฟาดแสงของ้าว | อยู่เพี้ยงจักรผัน | 
| ๓๑๕. เบื้องนั้นนฤนาถผู้ | สยามินทร์ | 
| เบื่ยงพระมาลาผิน | ห่อนพ้อง | 
| ศัตราวุธอรินทร์ | ฤาถูก องค์เอย | 
| เพราะพระหัตถ์หากป้อง | ปัดด้วยขอทรง | 
| ๓๑๖. บัดมงคลพ่าห์ไท้ | ทวารัติ | 
| แว้งเหวี่ยงเบี่ยงเศียรสะบัด | ตกใต้ | 
| อุกคลุกพลุกเงยงัด | คอคช เศิกแฮ | 
| เบนบ่ายหงายแหงนให้ | ท่วงท้อทีถอย | 
| ๓๑๗. พลอยพล้ำเพลียกถ้าท่าน | ในรณ | 
| บัดราชฟาดแสงพล | พ่ายฟ้อน | 
| พระเดชพระแสดงดล | เผด็จคู่ เข็ญแฮ | 
| ถนัดพระอังสาข้อน | ขาดด้าวโดยขวา | 
| ๓๑๘. อุรารานร้าวแยก | ยลสยบ | 
| เอนพระองค์ลงทบ | ท่าวดิ้น | 
| เหนือคอคชซอนซบ | สังเวช | 
| วายชิวาตม์สุดสิ้น | สู้ฟ้าเสวยสวรรค์ | 
เวสสันดรชาดก
กัณฑ์กุมาร (บทอาขยาน)
           
ตาต  พ่อเอ่ย  เจ้าชาลีศรีสุริยวงศ์เยาวเรศ 
ปิยปุตฺต  เจ้าก็เกิดในมกุฎเกศกรุงสีวีราษฎร์ 
ไยพ่อไม่องอาจย่อมย่อท้อทิ้งพระบิดา  ให้พราหมณ์มันจ้วงจาบหยาบช้า 
เจ้าเห็นชอบอยู่แล้วหรือหนาพ่อสายใจ  เราก็เป็นขัตติยมไหมหาสมมุติวงศ์วิเศษสุทธิกษัตริย์ 
ไม่มีใครที่จะมาพ้อตัดติเตียนเลย  พระลูกเอ่ย  เจ้าไม่รู้หรือพระบิตุรงค์บรรจงรักพระโพธิญาณ 
หวังจะยังสัตว์ให้ข้ามห้วงมหรรณพภพสงสารให้ถึงฟาก 
เป็นเยี่ยงอย่างยอดยากที่จะข้ามได้  สำเภาลำใดของพาณิช  ซึ่งจะตกแต่งต่อติดเป็นกงวาน 
ประกอบประกับกระดานตอกตรึง ตะปูตะปลิงยิงตรึงกระชับชิด  พืดเหล็กก็ตีติดตอกหมัน 
โซมน้ำมันชันเคี่ยวแล้วเยียวยา  กระดานดาดเป็นดาดฟ้าจังกอบกว้านสมอขัน 
เสากระโดงยืนยันยึดด้วยพืดพวนผูกขึง  รัดรึงตายติดกับเสารอกดูนี่เรี่ยวแรง 
เสากระโดงสายระโยงระยางแย่งมั่นคง  ปักทวนธงอยู่ริ้ว ๆ ธงตะขาบปลิวสะบัดปลาย 
นายช่างจำลองจำหลักลายรายด้วยรูปสัตว์  ราชสีห์สิงห์อัดแอ่นอกกอดกระหนกกระหนาบคาบแก้วกุม 
ครั้นได้ฤดูเดือนมรสุมแล้วก็แซ่ซ้อง  บรรทุกสิ่งของลงต่าง ๆ ไว้ระวางทางวิดน้ำทำเป็นโชงโลง 
อับเฉากันโคลงประจุเรียบ  สำเภานี่ก็พาบเพียบเพียงราโท  ครั้นได้ฤกษ์แล้วให้เลิกโห่ขึ้นสามลา 
ยิงปืนบนนาวาเสียงผะผางผึงตึงตัง  คนการยืนสะพรั่งอยู่พร้อมเพรียง 
ศัพท์สำเนียงเสียงเฮโลเฮล่า  เข้าฉุดคร่าสายสมอ ตีม้าล่อลั่นอยู่ฉ่าง
ๆ โบกธงอยู่คว้าง ๆ แล้วแกว่งกวัด  พระพายชายพัดติดใบบน  ล้าต้าต้นหนก็มุ่งมอง 
ตั้งเข็มส่องกล้องสลัด  โดยกำหนดขนัดคะเนหมาย  นายท้ายก็ยักย้ายบ่ายเบี่ยงเฉลียงแล่นออกชเลลึกแลไม่เห็นฝั่ง 
บังเกิดลมสลาตันตั้งตีเป็นลูกคลื่นอยู่ครื้นเครง  สำเภาก็โคลงเคลงไปตามคลื่นตื่นเต้น 
เสากระโดงหักกระเด็นกระดานแตก  คลื่นใหญ่โยนกระทบกระแทกกระทั่งผะผังผาง 
สำเภาก็อับปางลงในท่ามกลางชเลหลวง  ฝูงมนุษย์ทั้งปวงไม่หลอเหลือล้วนเป็นเหยื่อแก่เต่าปลา 
ด้วยเป็นโลกิยนาวาไม่จิรังเลยพระลูกเอ่ย 
พ่อเห็นแต่หน้าเจ้าพระพี่น้องทั้งสองรา  เจ้าจงมาเป็นมหาสำเภาทองธรรมชาติอันนายช่างชาญฉลาดจำลองทำ 
ด้วยกงแก้วประกำตรึงด้วยเพชรแน่นหนา  แก้วประพาฬแผ่เป็นดาดฟ้าฝาระบุระเบิดเปิดช่องน้ำ 
แก้วไพฑูรย์กระทำเป็นราโทโมราประทับสลับสลัก  กรอบลายรายดอกรักเนาวรัตน์ 
ฉลุฉลักเป็นรูปสัตว์ภาพเพชรนิลแนม  แกมหงส์วิหคกระหนกคาบลดารัด 
มังกรกัดกอดแก้วเกี้ยวเป็นก้านขดดูสดใส  ครั้นสำเร็จลำสำเภาแล้วเมื่อใดได้พระพิชัยมงคล 
พระบิดาจะทรงเครื่องต้นมงคลพิชัยสำหรับกษัตริย์  ดั่งจะเอาพระสมาบัติกระหวัดทรงเป็นสร้อยสังวาลอยู่สรรพเสร็จ 
จะเอาพระขันตีต่างพระขรรค์เพชรอันคมกล้า 
สุนทรจะย่างเยื้องลงสู่ที่นั่งท้ายเภตราสูงระหง  แล้วไปด้วยทวนธงเศวตฉัตร 
วายุวิเวกพัดอยู่เฉื่อยฉิว  สำเภาทองก็จะล่องลิ่วไปตามลม  สรรพสัตว์ก็จะชื่นชมโสมนัส 
ถึงจะเกิดลมกาฬพานกระพือพัดคือโลโภ 
ถึงจะโตสักแสนโตตั้งตีเป็นลูกคลื่นอยู่ครื้นโครมโถมกระแทก  สำเภานี้ก็มิได้วอกแวกวาบหวั่นไหว 
ก็จะแล่นระรี่เรื่อยเฉื่อยไปจนถึงเมืองแก้ว  อันกล่าวแล้วคือพระอมตมหานครนฤพาน 
พระลูกเอ่ย   เจ้าจะนิ่งนานอยู่ไยในสระศรี ขึ้นมาสินะพ่อมาแม่มา 
มาช่วยพระบิดายกยอดปิยบุตรทานบารมี 
แต่ในครั้งเดียวนี้เถิด
 
| 
 | คำปฏิญาณของลูกเสือไทย | ข้อเตือนใจจากที่อื่นๆ | วรรณคดีไทยร้อยกรอง|โคลงพระราชพงศาวดาร|  | 
| 
 |