| ย้อนกลับ |

ไประนอง (๕)

            ระนองได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีมรดกทางธรรมชาติอย่างอุดมสมบูรณ์ มีป่าทั้งป่าบก และป่าชายเลน สัตว์ทะเลนานาชนิด มีสัตว์บกจำนวนมาก จนต้องมีเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่ามากถึง ๔ แห่ง มีเกาะแก่งที่งดงาม น้ำตกและภูเขาหญ้าที่มีเพียงแห่งเดียว
            อุทยานแห่งชาติมีจำนวน ๔ แห่ง คือ
            อุทยานแห่งชาติแหลมสน  อยู่ห่างจาก อ.เมือง ๕๓ กม. ห่างจาก อ.กะเปอร์ ๖ กม.และแยกจากถนนเพชรเกษมเข้าไปอีก ๙ กม.สถานที่ท่องเที่ยวคือ หาดที่งดงามได้แก่ หาดประพาส หาดบางเบน และแหลมสน และเที่ยวเกาะในทะเลอันดามัน
            อุทยานแห่งชาติกระบุรี  ตั้งอยู่ในเขตอำเภอกระบุรี ตรงบริเวณวแม่น้ำกระบุรี ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนระหว่างไทย - พม่า
            อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม  อยู่ห่างจากปากน้ำระนองไปประมาณ ๓๓ กม.เป็นแหล่งปลูกมะม่วงหิมพานต์ หรือกาหยู มีหาดทรายขาวสะอาด รอบ ๆ เกาะ ยังมีเกาะแก่งที่สวยงาม เหมาะแก่การดำน้ำหรือตกปลา เช่น เกาะสินไห เกาะช้าง ผมเคยพาไปเที่ยวไปนอนพักที่เกาะพยามแล้ว เป็นเกาะที่มีธรรมชาติบริสุทธิ์ยังไม่มีรถยนต์มาวิ่งเพราะไม่มีถนนใหญ่ จะไปไหนต้องนั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซด์ไป มีรีสอร์ทที่สวยงามน่าพักหลายแห่ง อาหารดี
            อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว  อยู่ห่างจากระนองไปตามถนนเพชรเกษม หรือทางหลวงหมายเลข ๕ ประมาณ ๑๓ กม. เมื่อมองจากถนนเงยหน้าขึ้นไปบนขุนเขาจะเห็นน้ำตกหงาว ตกอยู่บนหน้าผาสูง ไหลจากหน้าผา สภาพป่ารอบ ๆ อุทยานร่มรื่นเป็นแหล่งอาศัยของปูเจ้าฟ้า ปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลก พบในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวเป็นแห่งแรก วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว
            เขตรักษาาพันธ์สัตว์ป่า มี ๔ แห่งคือ เขตรักษาพันธฺสัตว์ป่าคลองนาคาที่ อ.กะเปอร์ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ - นาสัก อ.กระบุรี เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร อ.กระบุรี และเขตรักษาพันธฺสัตว์ป่าชายเลนม่วงกลวง ท้องที่กิ่งอำเภอสุขสำราญ
            อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ดั้งเดิมทีเดียวคือ วนอุทยานน้ำตกหงาวในท้องที่ ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง มีแนวเขตตามแนวป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗ ได้มีการสำรวจ และจัดตั้งอุทยานแห่งชาติคลองเพรา ต.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เพราะมีน้ำตกสวยงาม และมีน้ำไหลตลอดปี ส่วนวนอุทยานน้ำตกหงาวนั้น ให้อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติแหลมสน แต่พอมาถึงปี พ.ศ.๒๕๓๒ ได้มีการผนวกอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวเข้าไปอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองเพรา พอมาถึงปี พ.ศ.๒๕๓๗ ก็เปลี่ยนชื่อจาก อช.คลองเพรา มาเป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว
            สภาพป่าเป็นป่าดิบชื้นมีไม้ใหญ่ ไม้มีค่า และไม้พื้นล่างเช่น พญาไม้ ตะเคียนทอง หลุมพอ จำปา ยางยูง บุญนาค ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่หวาย ระกำ ไผ่ เฟิน "โกมาชุมและบัวผุด" (บัวผุด ผมรู้จักครั้งแรกที่อุทยานแห่งชาติเขาสก สุราษฎร์ธานี ส่วนโกมาชุม มาเห็นดอกเมื่อมาน้ำตกหงาวในคราวนี้)
            เส้นทางสู่อุทยาน จากตัวเมืองระนองไปตามถนนเพชรเกษม ระยะทางประมาณ ๑๓ กม.แล้วแยกซ้ายเข้าที่ทำการอุทยาน กม.๖๒๔.๕๐๐ อีก ประมาณ ๑ กม.
            ก่อนถึงทางแยกเข้าอุทยาน จะผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญคือ
            กม.๖๒๐ แยกซ้ายเข้าไปอีก ๑.๕ กม.จะไปยังบ่อน้ำร้อนพรรั้ง และวัดป่าชัยมงคล ซึ่งทางเข้าไปยังน้ำตก และสถานที่ได้นรับการพัฒนาไว้อย่างสวยงาม มีร้านอาหาร มีบ้านรับรอง เมื่อเข้าไปถึงมีด่านเก็บเงินคนละ ๑๐ บาท เดินเข้าไปจะเลียบธารน้ำไหล ลงเล่นน้ำได้แต่เป็นธารน้ำเย็น มีฝายคอนกรีตเหมือนน้ำตก มีคนมาเล่นน้ำกันแยะ
            เมื่อเดินเลียบธารน้ำเย็นไปสัก ๑๐๐ เมตร จะมีสะพานข้ามไปยังบ่อน้ำร้อนให้ข้ามสะพานไป มีบ่อน้ำร้อน ๒ บ่อ บ่อนั่งแช่เท้าได้อีก ๑ บ่อ บ่อใหญ่นั้นห้ามลงไปเล่นในบ่อ กั้นไว้เป็นบ่อคอนกรีต ติดกันมีห้องอาบน้ำ มีสุขา และมีอ่างน้ำร้อนเซรามิค มีขอนให้นั่งในอ่างได้ อ่างนี้ลงแช่น้ำร้อนได้แต่ต้องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า (มีห้องให้ผลัดผ้า) แนะนำวิธีอาบ ว่าต้องอาบน้ำเย็นก่อนมีห้องให้อาบ มีฝักบัว ห้ามสระผม ห้ามถูสบู่ มีข้อแนะนำว่า ชำระร่างกายเสียก่อนลงอ่าง เปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นเป็นกางเกงขาสั้น ให้แช่น้ำร้อนในอ่าง ๕ นาที ขึ้นมาพัก ดื่มน้ำเย็นเพื่อปรับอุณหภูมิ ลงแช่น้ำต่อไปครั้งละ ๑๕ - ๒๐ นาที แล้วลงไปแช่ในธารน้ำเย็นที่ไหลอยู่ข้าง ๆ อ่างน้ำร้อน "ห้าม" เด็กและผุ้สูงอายุอยู่ตามลำพัง เรียกว่าแนะนำกันอย่างละเอียด
            ปากทางที่จะเลึ้ยวเข้ามามีสวนเฉลิมพระเกียรตินวมินทราชินี มีสวนนก
            กม.๖๑๙ มีบ่อน้ำพุร้อนหลุมพลี แต่ไม่ได้แวะเข้าไปเที่ยว
            ภูเขาหญ้า - เขาหัวล้าน  กม.๖๒๓  อยู่ทางขวามือ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.หงาว อ.เมืองระนอง ไประนอง หากไม่ได้ไปชม หรือขึ้นไปชมวิวบนเขาหญ้า ก็เหมือนไม่ได้มาเมืองระนอง จากจุดชมวิวที่รถขึ้นถึง จะมองเห็นน้ำตกหงาว ได้ชัดเจนมองชมความงามได้ดี เสียยิ่งกว่าไปชมจากในอุทยาน หรือริมถนน เพราะน้ำตกหงาวนั้น ตกจากหน้าผาที่สูงมาก (ยอดสูงสุดชื่อ ยอดเขานมสาว สูง ๑,๐๕๗ เมตร )  เขาหญ้าจะปกคลุมไปด้วยต้นหญ้าที่ไม่สูงมากนัก เขียวขจีตามแนวเนินเขาจากเหนือจรดใต้ ส่วนในฤดูร้อน หญ้าจะเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล และที่เรียก ภูเขาหญ้า เพราะกลุ่มเขาลูกนี้จะไม่มีไม้ใหญ่ ไม่ยืนต้นขึ้นอยู่เลยเรียกว่า แปลก หญ้าก็ไม่ขึ้นรกรุงรัง ขึ้นเป็นระเบียบเหมือนปลูกเอาไว้
             ตามที่ราบเชิงเขา มีทางเดินเท้าขึ้นสู่สันเขาเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบ ความเป็นมากล่าวไว้ว่า เมื่อประมาณ ๑๐๐ ปีมาแล้ว ต.หงาว เป็นป่าทึบ บริเวณภูเขาหญ้าเป็นทุ่งว่างเปล่า มีฝูงวัวป่า และม้าป่า อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านเรียกฝูงวัวป่าว่า "โหงว" ต่อมาบ้านเมืองเจริญขึ้น มีผู้คนมาอยู่อาศัยกันมากขึ้น วัวป่าถูกล่าไปเป็นอาหาร ม้าป่าถูกจับไปเป็นม้าออกศึก จำนวนสัตว์ลดลง แต่คนรุ่นหลังยังเรียกสถานที่ ที่ฝูงวัวป่า ม้าป่า อาศัยอยู่ว่า "หงาว" เพี้ยนมาจากคำว่า " โหงว" ที่เรียกกันในสมัยก่อน
            กม.๖๒๔.๕๐๐ แยกซ้ายไปอีกประมาณ ๑ กม.  จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ  ๐๗ ๗๘๔ ๘๑๘๑  หรือติดต่อสอบถามจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ๐๒ ๕๖๒ ๐๗๖๐ ภายในที่ทำการจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีจุดชมวิว ที่จุดนี้จะมองเห็น ภูเขาหญ้าได้เด่นชัด มองเห็นทะเลอันดามัน และหากไปในเดือนที่ "โกมาซุม" ออกดอก คือ เดือนกันยายน - ธันวาคม ดอกโกมาซุม จะออกดอกสีขาวสวยอย่างยิ่ง หากไม่ลืมผมจะลงภาพไว้ให้ชม ดอกมีสีขาว กลีบดอกมี ๔ กลีบ กลีบใหญ่มีสีเหลืองอ่อน อยู่ตรงกลาง ที่มาของชื่อ โกมาซุม มาจากชาวอังกฤษ ที่เข้ามาทำเหมืองแร่ ได้ตัดดอกไม้ที่พบในแถบนี้ แขวนประดับไว้ในบริเวณบ้าน แล้วเรียกว่า "ฟอร์ม มา ซ่อม" คนไทยนักดัดแปลงอยู่แล้ว เลยเรียกเพี้ยนเป็น โกมาซุม
            อุทยาน ฯ มีบ้านพักรับรองนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักค้างคืนหลายหลัง เป็นบ้านแบบทาร์ซานอยู่ก็มีคือ สร้างไว้สูง ต้องปีนขึ้นบันไดไป ผมไม่ได้ลองปีนขึ้นไปชมภายในบ้าน ชมแต่นอกบ้าน บ้านแบบทาร์ซานเห็นมีอยู่ ๔ หลัง ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียว ส่วนน้ำตกหงาวนั้น ตกลงมายังแอ่งน้ำ หากจะไปชมเดินไปจากศูนย์บริการ ฯ ประมาณ ๕๐๐ เมตร มีป้ายบอกทางให้เดินไป หรือจะยืนแหงนคอชม ตรงจุดชมวิวก็ได้
            เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกหงาว มีจุดที่น่าสนใจอยู่ ๘ จุดคือ จุดชมวิวน้ำตก ชมสภาพป่าดิบชื้น ชมต้นไทร พันธุ์ไม้ในสกุลไทร ชมไผ่ตระกูลหญ้าที่สูงที่สุด ชมต้นมอสที่ได้ชื่อว่า เป็นพรมธรรมชาติ ชมลานหินธรรมชาติ ชมหมู่ไม้เถาวัลย์ และจุดสุดท้ายคือ จุดชมวิว ซึ่งมองเห็นภูเขาหญ้า มองเห็นแนวยอดเขาน้ำตกหงาว และอันดามัน
            ก่อนไปชมอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ขอแนะนำว่าต้องไปกินอาหารเช้าที่แสนอร่อย และราคาย่อมเยาเสียก่อน อยู่ในเส้นทางเดียวกันคือ โรตี แกงกะหรี่ แกงมัสมั่นและไก่ทอด โรตีบ้านหงาว หากมาจากระนอง ประมาณ กม.๖๒๗ - ๖๒๖ มีป้ายบอกเทศบาลบ้านหงาว อยู่ทางขวา ให้เลี้ยวขวาเข้าไปจะผ่านหอนาฬิกา ชนสามแยก เลี้ยวขวาไปสัก ๕๐ เมตร ผ่านตลาดสดทางซ้าย ร้านโรตีจะอยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามป้ายซอยประชาพิทักษ์ ๕ เป็นร้านห้องเดียว อยู่ตรงหัวมุมติดกัน เป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ เช้า ๆ ยังไม่เปิด ต่อไปเป็นร้านที่หน้าร้านมีรถเข็นตั้งกระทะไก่ทอดที่อร่อยมาก หรือมาก ๆ บนโต๊ะจะมีขวดนมข้น มีน้ำตาลวางไว้ให้ เมื่อบริกรมารับคำสั่ง ก็สั่งโรตี ๆ ธรรมดานี่แหละ (เว้นตอนกลับ ซื้อโรตีแช่แข็งกลับมาด้วย) หรือจะสั่งแบบใส่ไข่ หากสั่งธรรมดา ต้องสั่งแกงกะหรี่ไก่ มาจิ้มโรตีด้วย หากเป็นวันอาทิตย์ คนกินเนื้อวัวได้ ต้องสั่งแกงมัสมั่นเนื้อมาอีกชาม มีสลัดแขกด้วย ส่วนโรตีนั้น จะสั่งกี่แผ่นก็กะขนาดพุงของตัวเองว่า จะรับไหวสักกี่แผ่น แล้วสั่งไก่ทอด เป็นไก่ชุบแป้งทอด กรอบนอก นุ่มใน หากคนขาดข้าวยามเช้าไม่ได้ ก็สั่งข้าวนึ่งมากินด้วย แต่ผิดสูตรของผม ที่เป็นไก่ทอดกับโรตี แล้วอย่าลืมสั่งชาร้อน เป็นชาอินโดจีน บอกว่าสั่งมาจากหาดใหญ่ หอมกรุ่น
            ไก่ทอดจะมาก่อน ส่วนโรตีต้องคอยมาช้าหน่อย ไก่ทอดจะโรยด้วย หอมเจียว ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล หนังกรอบ  กรอบนอก นุ่มใน รสพอดีไม่ต้องจิ้มอะไรอีกก็ได้ แต่เขาก็มีน้ำจิ้มไก่มาให้
            อิ่มแล้ว อย่าลืมซื้อโรตีแช่แข็งติดรถกลับมา หากยังไม่กลับบ้าน หรือกลับวันรุ่งขึ้น ก็แช่ไว้ในตู้เย็นโรงแรมก่อน กลับอีกวันก็ไม่เสีย มาถึงบ้านก็ส่งเข้าตู้เย็นช่องแข็ง หิวขึ้นมาเมื่อไร ก็เอาเข้าไมโครเวฟ เดี๋ยวก็ได้กินโรตีหงาว ๆ ที่แสนอร่อย
            หงาว ยังมีของดีอีกอย่างคือ "กะปิ"  นักเลงน้ำพริก อย่าลืมซื้อติดไม้ติดมือ กลับมา

| ย้อนกลับ | บน |