ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๑
(เก็บความจาก บทความ หนังสือพิมพ์)

            ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดมานานตั้งแต่ต้นสมัยรัตนโกสินทร์ แต่ทางราชการสามารถแก้ไข ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดีมาตลอด คราวใดที่ประเทศชาติมีปัญหา ทั้งภายนอกและภายใน ก็จะเกิดปัญหาดังกล่าวรุนแรงขึ้น หลายครั้งหลายหน เปรียบประดุจไฟสุมขอนที่ยังไม่ดับ เมื่อมีลมพัดมาก็จะลุกโชนขึ้นเป็นระยะ ๆ ตามความแรงของลม
            เหตุการณ์ในปี พ.ศ.๒๕๑๗  (๑๓ มิ.ย๑๗)  เมื่อมีการให้สัมภาษณ์อย่างเปิดเผยของหัวหน้าพรรคการเมือง พรรคหนึ่งของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลของประเทศนั้นอยู่ด้วย มีความว่า "ข้อเรียกร้องของขบวนการมุสลิม แบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ของไทย เป็นข้อเรียกร้องที่สมเหตุสมผล"
            ทางรัฐบาลไทยได้ขอให้รัฐบาลประเทศนั้นชี้แจง ก็ได้รับคำตอบในชั้นแรกว่า รัฐมนตรีคนดังกล่าวได้พูดในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง ไม่ใช่ในฐานะรัฐมนตรีในรัฐบาล แต่รัฐบาลไทยเห็นว่าชี้แจงยังไม่เป็นการเพียงพอ ที่จะชี้แจงให้ประชาชนชาวไทยเข้าใจได้ จึงขอให้ชี้แจงให้ชัดเจนกว่านี้ ในที่สุดก็ได้รับหนังสือเป็นทางการจากนายกรัฐมนตรีประเทศนั้น มายังนายกรัฐมนตรีของไทย (ฯพณฯ สัญญา ธรรมศักดิ์)  แสดงความเสียใจที่ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น พร้อมกับย้ำนโยบายของประเทศนั้น ที่ไม่แทรกแซง และไม่สนับสนุน ผู้คิดการแทรกแซงกิจการภายในของไทย
            บรรดาหนังสือพิมพ์ในประเทศไทย ได้ให้ความสนใจ และโต้ตอบในเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง มีเขียนบทความอันน่าสนใจอันประกอบด้วย ทรรศนะและข้อมูลที่น่าสนใจ พอประมวลได้ดังนี้


เรื่อง กะเทาะเปลือก สามจังหวัดภาคใต้
(เก็บความจาก บทความ นสพ.สยามรัฐ ฉบับ ๑๔ มิ.ย.๑๗)

            สถานการณ์ของสามจังหวัดภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ในปัจจุบันเปรียบเหมือนไฟป่าลามทุ่ง มีแนวโน้มจะลุกลามไปใหญ่  ความปลอดภัยในการคมนาคม การพัฒนาท้องถิ่น การเก็บภาษีทางราชการ ในเขตสามจังหวัดดังกล่าว กำลังจะถูกตัดทอนลงไปทุกขณะ ความหายนะกำลังรออยู่เบื้องหน้า สาเหตุเพราะความนิ่งนอนใจ ในนโยบายของรัฐบาลที่จะขจัดโจร สามจังหวัดภาคใต้ โดยใช้วิธีนุ่มนวล โดยหลีกเลี่ยงการใช้กำลังปะทะ  อีกทั้งความขัดแย้งของหน่วยราชการหลายหน่วยงาน ที่ไม่พยายามวางนโยบายปราบปรามโจรเข้าหากัน ยึดถือนโยบายของตนเป็นใหญ่
            พฤติกรรมของโจรใต้ ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในสามจังหวัดภาคใต้ตลอดมา แต่ทางผู้ใหญ่ในวงราชการ กลับเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ค่อย ๆ ดำเนินการไปอย่างใจเย็น  ผู้ที่กำลังจะสมัครรับเลือกตั้งผู้แทนราษฎรในสมัยที่จะถึง ก็ไม่ได้เรียกร้อง หรือเป็นปากเสียงให้แก่ประชาชน ผู้กำลังทุกข์ยาก อาจเป็นเพราะกลัวอิทธิพลพวกโจร หรือตกอยู่ใต้บังคับบัญชาของพวกโจร เพราะคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในสามจังหวัดภาคใต้ ตกอยู่ใต้อิทธิพลของพวกโจรเหล่านี้โดยสิ้นเชิง คะแนนเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งในสามจังหวัดภาคใต้ มาจากชาวไทยอิสลาม ถึงร้อยละ ๙๐ สภาวการณ์แช่นนี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
            สภาวการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.๒๕๑๖  มีการเรียกค่าไถ่ ค่าคุ้มครอง เป็นจำนวนมาก ในตัวจังหวัดทั้งสาม  พวกพ่อค้ารายใหญ่ ๆ จะถูกเรียกค่าไถ่ รายละตั้งแต่ หนึ่งแสนบาท ขึ้นไป บริษัทรถโดยสารและแท็กซี่ ที่วิ่งตามเส้นทาง ปัตตานี - ยะลา ปัตตานี - นราธิวาส  และ ยะลา - เบตง  ส่วนใหญ่แล้วต้องเสียค่าคุ้มครองเป็นรายเดือน หากใครขัดขืน จะได้รับอันตรายถึงชีวิต  แม้การซื้อขายที่ดิน เจ้าของที่ดินก็จะต้องชักส่วนแบ่งให้แก่พวกโจรด้วย
            เขตยึดครองที่พวกโจรเหล่านี้ได้แพร่อิทธิพลคือ  จังหวัดปัตตานี ในเขตอำเภอมายอ อำเภอสายบุรี อำเภอปะนาเระ อำเภอยะรัง และอำเภอโคกโพธิ  จังหวัดนราธิวาส ในเขตอำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ และอำเภอที่อยู่ติดชายแดนมาเลเซีย  จังหวัดยะลา ในเขตอำเภอรามัน และอำเภอยะหา
            ในการที่รัฐบาลชุดก่อนได้ทำ สัญญาตกลงกับฝ่ายมาเลเซีย ที่จะร่วมมือกันปราบปรามผู้ก่อการร้าย ตามบริเวณชายแดนของมาเลเซีย กับไทย โดยยินยอมให้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ไล่ติดตามผู้ก่อการร้าย ข้ามเขตแดนของทั้งสองฝ่าย  สัญญานี้เป็นผลดีแก่ทางมาเลเซีย ส่วนทางไทยไม่ได้ผลอะไรเลย เพราะไม่เคยได้ใช้สิทธิ์ประโยชน์ดังกล่าว แต่ทางมาเลเซียใช้
            ทางรัฐบาลมาเลเซีย ปฎิบัติกับคนไทยที่ตกค้างอยู่ในมาเลเซีย ในสมัยที่มีการปันเขตแดนกัน คนไทยเหล่านั้นก็ต้องเป็นสัญชาติมาเลเซีย แต่นับถือศาสนาพุทธ ก็เช่นเดียวกับชาวไทยมุสลิมที่อยู่ในสามจังหวัดภาคใต้ แต่การให้เสรีภาพในด้านการอ่าน การเขียน การพูด และสิทธิในด้านอื่น ๆ ไม่เหมือนกัน ทางฝ่ายไทยนั้นให้สิทธิเท่าเทียมกัน แต่ที่ไทยอิสลามบางกลุ่ม กล่าวหาว่าไทยปกครองในระบบการกดขี่นั้น มันเป็นการกระทำของข้าราชการบางคนเท่านั้น
            เมื่อมาดูเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ บำบัดทุกข์แก่ประชาชนในสามจังหวัดภาคใต้ มีหลายหน่วยราชการที่ต้องแก้ไข เพราะหน่วยงานต่าง ๆ ที่ส่งเข้ามาปฎิบัติราชการอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ เปรียบเสมือนดาบสองคมที่ให้ทั้งคุณและโทษ ตราบใดที่ยังไม่สามารถปรับปรุงหน่วยงาน ที่กล่าวมาแล้วนั้นให้มีคุณภาพและสมรรถภาพแล้ว การที่คิดจะแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายของสามจังหวัดภาคใต้ ให้คืนสู่สภาวการณ์ปกติก็ยังไม่เห็นลู่ทาง ที่จะให้พ้นวิกฤตการณ์ที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้ได้

เรื่อง ความบริสุทธิ์ใจของเพื่อนบ้าน
(เก็บความจาก บทความ นสพ.สยามรัฐ ฉบับ ๒๐ มิ.ย.๑๗)

            ถ้อยแถลงของอธิบดีกรมการปกครอง ที่กล่าวว่า คำพูดของรัฐมนตรีกระทรวงที่ดินและกิจการศาสนาอิสลาม ของประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเหตุให้โจรภาคใต้ฮึกเหิมนั้น นับเป็นคำกล่าวที่ตรง และถูกต้องกับสถานการณ์อย่างที่ปฎิเสธไม่ได้
            ปฎิกริยาของกลุ่มโจรภาคใต้ ไม่เคยฮึกเหิม และรุนแรงเช่นนี้มาก่อนเลยในอดีต ตามปกติเมื่อรัฐบาลจะเข้าดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจังแล้ว กลุ่มโจรนี้ก็มักจะล่าถอยหรือไม่ก็หยุดการปฏิบัติการชั่วคราว แทนที่จะปฏิบัติการรุนแรงยิ่งขึ้นอย่างคราวนี้ จึงจำเป็นอยู่เองที่เราจะต้องมีปฏิกิริยาโต้ตอบบ้าง
            การที่กระทรวงการต่างประเทศ ยังแสดงความกังวลต่อคำแถลงของเอกอัครราชทูตของประเทศดังกล่าว และรู้สึกว่ายังไม่เป็น เหตุผลเพียงพอที่จะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจได้ จึงเป็นเรื่องที่เป็นเหตุผลอย่างยิ่ง เพราะคนไทยยังสงสัยอยู่จริง ๆ ว่า รัฐบาลประเทศนั้น จะรับผิดชอบต่อคำพูดของรัฐมนตรีในคณะของตนได้เพียงใด
            การที่กล่าวว่า เขาได้พูดในฐานะหัวหน้านักการเมืองฝ่ายค้านพรรคหนึ่ง ไม่ใช่ในฐานะรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลนั้น ก็ยังไม่เข้าใจว่า เหตุใดเมื่อพรรคการเมืองหนึ่ง ประกาศนโยบายแทรกแซงกิจการของประเทศไทยอย่างเปิดเผย แล้วรัฐบาลของประเทศนั้น ยังรับหัวหน้าพรรคการเมืองนั้น เป็นรัฐมนตรีร่วมคณะอยู่อีก
            ประชาชนคนไทยเชื่อถือความบริสุทธิ์ใจ และจริงใจของรัฐบาลประเทศนั้นมาโดยตลอด แม้ว่าเท่าที่ผ่านมาจะมีคำกล่าวว่า พรรคการเมืองในประเทศนั้นสนับสนุนโจรภาคใต้ แต่ก็ไม่มีใครหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมากล่าว เมื่อบัดนี้ได้มีการประกาศอย่างเปิดเผยแล้วว่า นักการเมืองของประเทศนั้นก้าวก่ายกิจการภายในของเรา จึงไม่เป็นการเพียงพอที่รัฐบาลประเทศนั้นจะกล่าวเพียงคำว่าเสียใจ

เรื่อง รัฐบาลเพื่อนบ้านปากว่าตาขยิบ
(เก็บความจากบทความ นสพ.สยามรัฐ ฉบับ ๒๑ มิ.ย.๑๗)

            การสูญเสียเขาพระวิหารแก่เขมรตามคำพิพากษาของศาลโลกครั้งนั้นยังเสียดายไม่หาย ก็ได้แต่หวังว่าเขมรจะมอบเขาพระวิหารคืนแก่ไทยด้วยดี จะเห็นว่าแม้จะอยากได้แผ่นดินของตัวเองคืน แต่ก็ไม่ปรารถนาจะได้มาอย่างโจร
            ยังมีดินแดนไทยตลอดแหลมมลายูที่มีหลักฐานยืนยันว่าเคยเป็นดินแดนของเรา โดยเฉพาะสี่รัฐทางภาคเหนือของมาเลเซีย เช่น กลันตัน ตรังกานู แต่ไทยเราไม่เคยอ้าง ทั้งที่นักล่าเมืองขึ้นอังกฤษสมัยนั้นยื้อแย่งไป
            ความใจดี ใจเป็นธรรม ของคนไทย ทำให้คนบางจำพวก เที่ยวยุยงส่งเสริมให้มีการแยกดินแดนไทยสามจังหวัด ให้เป็นรัฐอิสระบ้าง รัฐในอารักขาของมาเลเซียบ้าง ให้ผนวกเป็นดินแดนมาเลเซียเลยก็มี พฤติกรรมเช่นนี้ใครไม่โกรธก็เป็นพระอิฐพระปูน ตายไปแล้ววิญญาณจะอยู่ในนรก
            เราจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เป็นคลื่นใต้น้ำมาช้านาน เราอมพะนำพูดกับมุขบุรุษประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเห็นแก่สัมพันธไมตรีอันดีมาตลอด เหตุการณ์ก็เหมือนเล่นละคร หรือสวมหน้ากากเข้าหากันเรื่อยไป รัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านปากว่าตาขยิบเรื่อยมา คนไทยและรัฐบาลไทยจะต้องพูดบ้าง แล้วไม่พูดเปล่า เตรียมปฏิบัติการด้วย
            บอกกล่าวพี่น้องไทยในสามจังหวัดนั้นด้วยว่า  ไม่ว่าไทยพุทธไทยอิสลามก็มีความเป็นไทยโดยเท่าเทียมกัน เกิดแล้วในผืนแผ่นดินไทยก็ต้องเป็นคนไทย  สภาพอาณาเขตไทย จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันอย่างเด็ดขาด เราทำอ่อย ๆ ให้อีกฝ่ายได้ใจและเหิมเกริมมามากแล้ว ให้ประกาศท่าทีปกป้องปิตุภูมิอย่างเด็ดเดี่ยว จริงจังกันเสียที ขณะเดียวกันทุกข์สุขของพี่น้องไทยในสามจังหวัดนั้น รัฐบาลต้องเป็นภาระรับรู้ และแก้ไขอย่างเต็มที่
            ข้าราชการไม่ดีทั้งหลายที่เป็นต้นเหตุหนึ่งแห่งความทุกข์ร้อนนั้น ต้องขจัดออกไปในฐานะที่เป็นผู้บ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐ  จัดหาคนดี เข้าใจและเข้าถึงประชาชนจริง ๆ ไปแทน ทำมันทุกทาง ไม่นานก็จะเห็นผล
            ใครมีความคิดเห็นอย่างไรก็จงช่วยกันคนละไม้ละมือ เพราะเป็นเรื่องของเราทุกคน ไม่ใช่สุดแท้แต่รัฐบาล ลำพังรัฐบาลก็ทำอะไรต่อมิอะไรผิดมาไม่น้อย แม้ที่สามจังหวัดภาคใต้
            อย่างไรก็ตาม ไมตรีจิตมิตรภาพก็เหมือนของเย็น และชื่นชูใจ โบราณว่า "ปรารถนาสารพัดในปฐพี  เอาไมตรีแลกได้ดังใจจง"  ทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ใช่จะไม่หวังในทางไมตรีเป็นหลัก เพียงแต่ว่า พื้นฐานของไมตรีจะต้องทำให้เหมาะสม

เรื่องบทบาทของสมาชิกรัฐสภาไทย
(เก็บความจาก บทความ นสพ.สยามรัฐ ฉบับ ๒๑ มิ.ย.๑๗)

            กรณีรัฐมนตรีที่ดิน และกิจการศาสนาอิสลามของรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน และดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ได้กล่าวในที่ประชุมพรรค เกี่ยวกับประเทศไทยเป็นเชิงสนับสนุนให้มีการแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็นการพูดก้าวร้าว ปราศจากมรรยาทเป็นการแทรกแซงการเมือง และการปกครองของไทย ทั้งที่ทั้งสองประเทศได้มีสัมพันธไมตรีอันดีต่อกันหลายอย่าง เป็นต้นว่า การเมืองการทูต การเศรษฐกิจ การปราบปรามโจรจีน และผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ร่วมกัน ทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ประท้วงไปแล้ว
            เรื่องนี้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาต ิซึ่งเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล และดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของจังหวัดสตูลอยู่ในปัจจุบัน ได้เสนอญัตติด่วนต่อสภา ฯ เพื่อให้สมาชิกทั้งสภารวมทั้งรัฐบาล ให้แสดงท่าทีออกมาว่าจะดำเนินการอย่างไร
            ญัตติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าความเป็นมิตรระหว่างไทยกับประเทศนั้น ในขณะนี้ดูประหนึ่งว่า มือหนึ่งกอดคอ แต่อีกมือหนึ่งถืออาวุธที่จะคอยล้างผลาญไทย และในขณะเดียวกัน ก็ได้ขอให้รัฐบาลได้สังวรในการที่จะปฏิรูปการปกครองทางจังหวัดภาคใต้ ที่มีชาวไทยอิสลามอยู่มากมาย
            ผู้เขียนบทความเชื่อว่า ชาวไทยอิสลามส่วนใหญ่ แม้จะมีอะไรหลายอย่างที่ไม่พอใจ ต่อวิถีการปกครองของฝ่ายปกครองท้องถิ่นของรัฐบาล แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ชาวไทยอิสลามภาคใต้ ยึดถือเป็นหลักชัย ไม่ยอมที่จะแบ่งแยกตัวเองจากไทยไปเป็นอย่างอื่น สิ่งนั้นคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งประชาชนอิสลามให้ความเคารพสักการะบูชายิ่งเสียกว่าคนไทยบางพวกเสียอีก จะเห็นได้ว่า เมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จประพาสสี่จังหวัดภาคใต้ ชาวไทยอิสลามก็แสดงความจงรักภักดี และแสดงความปิติยินดีถวายการต้อนรับอย่างพร้อมหน้า และมากมายยิ่งเสียกว่าการเสด็จประพาสภาคใด ๆ
            การที่มีข่าวเกี่ยวกับการแยกดินแดนสี่จังหวัดภาคใต้นั้น น่าจะเกิดจากคนส่วนน้อยซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักการเมือง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการแก้ไขตอบโต้เพื่อความเข้าใจอันดีต่อไป
            ส่วนการอภิปรายในสภาของบรรดาสมาชิก ก็ไม่ได้เสนอแนะวิธีการที่ควรปฏิบัติ ตอบสนองแก่รัฐมนตรีประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไปอภิปรายถึงความไม่ดีไม่งามของรัฐบาลไทย ในวิธีการปกครองทางจังหวัดภาคใต้ ซึ่งไม่ตรงกับความมุ่งหมายของผู้เสนอญัตติ ฟังดูแล้วกลับจะเป็นการเห็นว่า การที่รัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านกล่าวนั้น เป็นเพราะสถานการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้เลวร้ายเสียจนกระทั่งนักการเมืองต่างประเทศนำไปกล่าว