เรื่อง สุภมานพ
เมื่อพระผู้มีพระภาค เสด็จปรินิพพานแล้วไม่นาน พระอานนท์อยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
เขตนครสาวัตถี
สมัยนั้น สุภมานพโตเทยยบุตร ได้ขอให้พระอานนท์ไปยังนิเวศน์ของตน แล้วถามว่า
ท่านพระโคดมตรัสสรรเสริญคุณแห่งธรรมเหล่าไหน และทรงยังชุมชนให้สมาทาน ตั้งอยู่
ดำรงอยู่ ในธรรมเหล่าไหน ฯ
อริยขันธ์
3
พระอานนท์ตอบว่า ได้ตรัสสรรเสริญขันธ์สาม และทรงยังชุมชนให้สมาทาน ตั้งอยู่
ดำรงอยู่ในขันธ์สามนี้ คือ ศีลขันธ์ อันเป็นอริย สมาธิขันธ์อันเป็นอริย
ปัญญาขันธ์อันเป็นอริย ศีลขันธ์เป็นไฉน
อริยศีลขันธ์
พระอานนท์ได้แสดงพุทธคุณ (รายละเอียดในสามัญญผลสูตร)
แสดง จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล (รายละเอียดในพรหมชาลสูตร)
แล้วสรุปว่า เมื่อภิกษุสมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้ ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหน
ๆ เพราะศีลสังวรนั้น เปรียบเหมือนกษัตริย์ ผู้ได้มุรธาภิเษก กำจัดราชศัตรูได้แล้ว
ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหน ๆ ภิกษุสมบูรณ์ด้วยอริยศีลขันธ์เช่นนี้แล้ว ย่อมได้เสวยสุขอันปราศจากโทษในภายใน
อนึ่งในพระธรรมวินัยนี้ ยังมีกรณียกิจที่ยิ่งขึ้นไปอยู่อีก ฯ
สุภมานพกล่าวว่า น่าอัศจรรย์นัก ไม่เคยมีมาก่อน ข้าพเจ้าไม่เคยได้เห็นศีลขันธ์
อันเป็นอริยที่บริบูรณ์อย่างนี้ในสมณพราหมณ์อื่น ภายนอกพระศาสนานี้เลย
สมณพราหมณ์เหล่าอื่น พึงเห็นศีลขันธ์อันเป็นอริย ที่บริบูรณ์แล้วอย่างนี้ในตน
เขาเหล่านั้นจะพึงพอใจ เพราะเหตุเพียงเท่านั้น สำคัญตนว่าได้บรรลุ ถึงประโยชน์แห่งสามัญคุณ
แล้วโดยลำดับ ไม่มีกรณียกิจอะไร ที่จะยิ่งขึ้นไปอีก แต่พระอานนท์ยังกล่าวว่า
ในพระธรรมวินัยนี้ ยังมีกรณียกิจ ที่ยิ่งขึ้นไปอยู่อีก
อริยสมาธิขันธ์-อินทรีสังวร
พระอานนท์ได้แสดงอินทรียสังวร (รายละเอียดมีในสามัญญผลสูตร) แล้วสรุปว่า
เมื่อภิกษุประกอบด้วย
อินทรียสังวรอันเป็นอริยเช่นนี้ย่อมได้เสวยสุข
อันไม่ระคนด้วยกิเลสในภายใน
จากนั้นได้แสดงสติสัมปชัญญะ สันโดษ จิตปราศจากนิวรณ์ เปรียบนิวรณ์
รูปฌาน 4 (รายละเอียดมีใน
สามัญญผลสูตร)
แล้วสรุปว่า นี้เป็นสมาธิขันธ์อันเป็นอริยะ อนึ่งในพระธรรมวินัยนี้
ยังมีกรณียกิจที่ยิ่งขึ้นไปอยู่อีก
สุภมานพก็ได้กล่าวคำสรรเสริญ ทำนองเดียวกันกับที่กล่าวในหัวข้ออริยศีลขันธ์
อริยปัญญาขันธ์
พระอานนท์ได้แสดง วิชชา 8 อันประกอบด้วย วิปัสสนาญาณ มโนมยิทธิญาณ อิทธิวิชญาณ
ทิพยโสตญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ จุตูปชาตญาณ อาสวักขยญาณ แล้วสรุปว่า
ดูกร มาณพ ปัญญาขันธ์อันเป็นอริยนี้ ที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสสรรเสริญ และทรงยังประชุมชนนี้ให้
สมาทาน
ให้ตั้งอยู่ ให้ดำรงอยู่ และในพระธรรมวินัยนี้ มิได้มีกรณียกิจที่ยิ่งขึ้นไปอีก
สุภมานพแสดงตนเป็นอุบาสก
ข้าแต่พระอานนท์ ภาษิตของท่านแจ่มแจ้งนัก ฯลฯ ข้าพเจ้านี้ขอถึงท่านพระโคดม
พระธรรมและ
พระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ
ขอท่านพระอานนท์จงจำข้าพเจ้าว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป