| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | พระวินัยปิฎก | พระสุตตันตปิฎก |

10. สุภสูตร

เรื่อง สุภมานพ
            เมื่อพระผู้มีพระภาค เสด็จปรินิพพานแล้วไม่นาน พระอานนท์อยู่  ณ พระวิหารเชตวัน เขตนครสาวัตถี
            สมัยนั้น สุภมานพโตเทยยบุตร ได้ขอให้พระอานนท์ไปยังนิเวศน์ของตน แล้วถามว่า ท่านพระโคดมตรัสสรรเสริญคุณแห่งธรรมเหล่าไหน และทรงยังชุมชนให้สมาทาน ตั้งอยู่  ดำรงอยู่ ในธรรมเหล่าไหน ฯ
อริยขันธ์ 3
            พระอานนท์ตอบว่า ได้ตรัสสรรเสริญขันธ์สาม และทรงยังชุมชนให้สมาทาน ตั้งอยู่ ดำรงอยู่ในขันธ์สามนี้ คือ ศีลขันธ์ อันเป็นอริย  สมาธิขันธ์อันเป็นอริย  ปัญญาขันธ์อันเป็นอริย   ศีลขันธ์เป็นไฉน
อริยศีลขันธ์
            พระอานนท์ได้แสดงพุทธคุณ  (รายละเอียดในสามัญญผลสูตร)
            แสดง จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล  (รายละเอียดในพรหมชาลสูตร)
            แล้วสรุปว่า  เมื่อภิกษุสมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้  ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหน ๆ  เพราะศีลสังวรนั้น  เปรียบเหมือนกษัตริย์ ผู้ได้มุรธาภิเษก กำจัดราชศัตรูได้แล้ว ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหน ๆ  ภิกษุสมบูรณ์ด้วยอริยศีลขันธ์เช่นนี้แล้ว ย่อมได้เสวยสุขอันปราศจากโทษในภายใน
            อนึ่งในพระธรรมวินัยนี้ ยังมีกรณียกิจที่ยิ่งขึ้นไปอยู่อีก ฯ
            สุภมานพกล่าวว่า น่าอัศจรรย์นัก ไม่เคยมีมาก่อน ข้าพเจ้าไม่เคยได้เห็นศีลขันธ์ อันเป็นอริยที่บริบูรณ์อย่างนี้ในสมณพราหมณ์อื่น ภายนอกพระศาสนานี้เลย  สมณพราหมณ์เหล่าอื่น พึงเห็นศีลขันธ์อันเป็นอริย ที่บริบูรณ์แล้วอย่างนี้ในตน เขาเหล่านั้นจะพึงพอใจ เพราะเหตุเพียงเท่านั้น สำคัญตนว่าได้บรรลุ ถึงประโยชน์แห่งสามัญคุณ แล้วโดยลำดับ ไม่มีกรณียกิจอะไร ที่จะยิ่งขึ้นไปอีก แต่พระอานนท์ยังกล่าวว่า ในพระธรรมวินัยนี้ ยังมีกรณียกิจ ที่ยิ่งขึ้นไปอยู่อีก
อริยสมาธิขันธ์-อินทรีสังวร
            พระอานนท์ได้แสดงอินทรียสังวร (รายละเอียดมีในสามัญญผลสูตร) แล้วสรุปว่า เมื่อภิกษุประกอบด้วย
อินทรียสังวรอันเป็นอริยเช่นนี้ย่อมได้เสวยสุข  อันไม่ระคนด้วยกิเลสในภายใน
           จากนั้นได้แสดงสติสัมปชัญญะ สันโดษ จิตปราศจากนิวรณ์ เปรียบนิวรณ์ รูปฌาน 4 (รายละเอียดมีใน
สามัญญผลสูตร) แล้วสรุปว่า นี้เป็นสมาธิขันธ์อันเป็นอริยะ  อนึ่งในพระธรรมวินัยนี้ ยังมีกรณียกิจที่ยิ่งขึ้นไปอยู่อีก
           สุภมานพก็ได้กล่าวคำสรรเสริญ ทำนองเดียวกันกับที่กล่าวในหัวข้ออริยศีลขันธ์
อริยปัญญาขันธ์
            พระอานนท์ได้แสดง วิชชา 8  อันประกอบด้วย วิปัสสนาญาณ มโนมยิทธิญาณ อิทธิวิชญาณ ทิพยโสตญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ จุตูปชาตญาณ อาสวักขยญาณ แล้วสรุปว่า
            ดูกร มาณพ ปัญญาขันธ์อันเป็นอริยนี้ ที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสสรรเสริญ และทรงยังประชุมชนนี้ให้
สมาทาน ให้ตั้งอยู่ ให้ดำรงอยู่ และในพระธรรมวินัยนี้ มิได้มีกรณียกิจที่ยิ่งขึ้นไปอีก
สุภมานพแสดงตนเป็นอุบาสก
            ข้าแต่พระอานนท์ ภาษิตของท่านแจ่มแจ้งนัก ฯลฯ  ข้าพเจ้านี้ขอถึงท่านพระโคดม พระธรรมและ
พระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอท่านพระอานนท์จงจำข้าพเจ้าว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

จบ สุภสูตรที่ 10


| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | พระวินัยปิฎก | | พระสุตตันตปิฎก | บน |