|
เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปยืน พระหัตถ์ซ้าย
ทอดลงข้างพระวรกาย พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ ฝ่าพระหัตถ์แบไปด้านหน้า
แสดงกิริยาห้ามให้หยุด
พระพุทธรูปปางนี้ มีที่มาจากพุทธประวัติตอนหนึ่ง เป็นเหตุการณ์หลังจากที่
พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสรู้แล้ว มีอยู่สมัยหนึ่งพระกษัตริย์แห่งโกลิยะวงศ์ ซึ่งเป็นพระประยุรญาติ ทางฝ่ายพระพุทธมารดา กับพวกกษัตริย์แห่งศากยวงศ์ ซึ่งเป็นพระประยูรญาติ ทางฝ่ายพระพุทธบิดา ต่างแย่งน้ำกัน โดยต่างฝ่ายต่างก็ให้ทดน้ำจากแม่น้ำโรหิณีเข้านาของฝ่ายตน เนื่องจากปีนั้นฝนน้อย น้ำไม่พอทำนา เกิดการวิวาทกันขึ้นจนถึงขึ้นใกล้จะทำสงครามกัน
พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระญาณ จึงได้ทรงเสด็จไป ณ ที่ซึ่งทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน และตรัสถามว่าวิวาทกันด้วยเรื่องอะไร ทั้งสองฝ่ายทูลตอบว่า วิวาทกันเรื่องน้ำ พระองค์จึงตรัสถามต่อไปว่า น้ำกับกษัตริย์ อย่างไหนสำคัญและจะมีค่ามากกว่ากัน ทั้งสองฝ่ายก็ทูลตอบว่า กษัตริย์สำคัญ และมีค่ามากกว่า พระพุทธองค์จึงได้เทศนาให้ทั้งสองฝ่ายฟัง เหตุการณ์จึงสงบลงได้ด้วยดี
ตามคติโบราณกำหนดให้มีคาถาบูชาพระพุทธรูปปางห้ามญาติ มีข้อความดังนี้
บทสวดบูชาประจำวันจันทร์
ค
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป
สกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง
อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ค
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป
สกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง
อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ค
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป
สกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง
อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ขอลางร้าย สิ่งที่เป็นอัปมงคล เสียงนกที่น่าหวั่นเกรง เคราะห์ร้าย และฝันร้ายที่ไม่ต้องการ จงพินาศไปด้วยพุทธานุภาพ
ขอลางร้าย สิ่งที่เป็นอัปมงคล เสียงนกที่น่าหวั่นเกรง เคราะห์ร้าย และฝันร้ายที่ไม่ต้องการ จงพินาศไปด้วยพุทธานุภาพ
ขอลางร้าย สิ่งที่เป็นอัปมงคล เสียงนกที่น่าหวั่นเกรง เคราะห์ร้าย และฝันร้ายที่ไม่ต้องการ จงพินาศไปด้วยพุทธานุภาพ
|