อุทยานแห่งชาติไทรทอง
จังหวัดชัยภูมินั้นมีอุทยานแห่งชาติรวม ๖ พื้นที่ แต่อยู่ในจังหวัดชัยภูมิเพียงจังหวัดเดียวมี ๔ พื้นที่ อีก ๒ อุทยานอยู่ร่วมกับจังหวัดอื่น ๖ อุทยานคือ
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อยู่ในเขตเทือกเขาพังเหย เป็นป่าที่มีก้อนหินใหญ่ๆรูปร่างแปลกๆ กระจายเป็นบริเวณกว้างกว่า ๒๐๐ ไร่ บางกลุ่มรูปร่างเหมือนตาปู บางกลุ่มเหมือนหัวพญานาค บางกลุ่มเหมือนปราสาทโบราณ เหมือน หอเรดาร์ ก้อนที่รูปร่างแปลกก้อนหนึ่งเรียกหินปู่ คล้ายหินตาที่สมุย
และพื้นที่ที่ห่างกันจากป่าหินงามประมาณ ๑ กม. ในช่วงฤดูฝนปลายเดือนมิถุนายน ไปจนถึงกลางเดือนกรกฏาคม จะมีทุ่งดอกกระเจียว สีชมพูอมม่วงบานเต็มทุ่ง ส่วนฤดูหนาวระหว่างเดือน ธันวาคม – มกราคมมีดอกกล้วยไม้
นอกจากนี้ยังมี จุดชมวิว”สุดแผ่นดิน “ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเขาพังเหย
อุทยานแห่งชาติตาดโตน อยู่เทือกเขาภูแลนคา ครอบคลุม ๔ ตำบลของอำเภอเมือง และมีน้ำตกสำคัญ เป็นน้ำตกที่สูงใหญ่แห่งหนึ่งของภาคอีสาน เกิดจากภูเขาโดยรอบป่าสงวนแห่งชาติ ได้แก่ ภูเกษตร ภูคี ภูโค้ง ภูหยวก และภูอีเฒ่า โดยที่ภูเขาแต่ละลูกติดต่อกันเป็น เทือกเขาภูแลนคา น้ำตกตาดโตนสูงเพียง ๖ เมตร แต่ด้านบนมีลานหินกว้างประมาณ ๕๐ เมตร ในช่วงฤดูฝนน้ำจะไหลแรง สวยมาก การเดินทางไปสะดวก ทั้งป่าหินงาม และ น้ำตกตาดโตน
อช.(อุทยานแห่งชาติ)ตาดโตน ยังมีน้ำตกผาเอียง น้ำตกผาสองชั้น น้ำตกผานิต น้ำตกตาดฟ้า แต่การเดินทางไปชมไม่สะดวกเหมือนตาดโตน ที่รถไปจอดได้ใกล้ๆ
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เป็นพื้นที่ป่าบริเวณเทือกเขาภูเขียว ติดต่อกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ มีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตท้องที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่ ๒๖๗ ตารางกิโลเมตร ( พื้นที่ทั้งหมด ๙๖๖ ตารางกิโลเมตร ) แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ ผาล้อม ผากรอง ภูน้ำรินหรือถ้ำใหญ่น้ำหนาว ภูผาจิต น้ำตกทรายทอง น้ำตกตาดพรานนา สวนสน ถ้ำผาหงส์ หนองน้ำขุ่น
อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ครอบคลุมพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในเขต ๒ จังหวัด คือในท้องที่ อำเภออุบลรัตน์ ภูเวียง บ้านฝาง หนองเรือ มัญจาคีรี โคกโพธิ์ชัย ในเขตจังหวัดขอนแก่น ส่วนที่อยู่ในเขตจังหวัดชัยภูมิมี อำเภอบ้านแท่น อำเภอแก้งคร้อ มีเนื้อที่ ๑๙๗ ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งนี้มีเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ๓ แห่ง คือ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขียว เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าผาผึ้ง เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ตะเบาะ – ห้วยใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ของ อช.น้ำพอง คือ น้ำตกเก้าหลั่น ถ้ำผาทิพย์ ถ้ำแสงจันทร์ ถ้ำพระ ถ้ำแก้ว น้ำตกคลองสวนหมู น้ำตกประสิทธิ์ น้ำตกผาทอง น้ำตกเหวนาคำ
ลำน้ำชี มีต้นน้ำอยู่บริเวณภูเขียว และเทือกเขาพญาฝ่อ ในเขตอำเภอหนองบัวแดง แม่น้ำชีจะไหลผ่าน ชัยภูมิ เป็นระยะทางประมาณ ๑๙๐ กม. แล้วไหลเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร ศรีษะเกษ ไปบรรจบกับแม่น้ำมูลที่ อุบลราชธานี ไหลลงสู่แม่น้ำโขง แม่น้ำชีจึงเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย คือระยะทางยาวรวม ๗๖๕ กิโลเมตร
เขื่อนจุฬาภรณ์ อยู่ในเขต อ.คอนสาร กั้นลำน้ำพรม ( เคยพาไปเที่ยวมาแล้ว ) เขื่อนห้วยกุ่ม อำเภอเกษตรสมบูรณ์ เขื่อนลำปะทาว อำเภอเมือง อำเภอแก้งคร้อและอำเภอเกษตรสมบูรณ์ และยังมีอีกหลายเขื่อน
เทือกเขาสำคัญ คือเทือกเขาภูแลนคา และเทือกเขาพังเหย ที่เชื่อมต่อกันบริเวณช่องเขาขาด มีแม่น้ำชีไหลผ่าน เขาพังเหยเป็นขอบของที่ราบสูงภาคอีสานที่ยกตัวขึ้นมา โดยมีภูเขาสำคัญหลายลูก และหากไปยืนที่”สุดแผ่นดิน” ของ อช.ป่าหินงาม จะมองลงไปเห็นเด่นชัดในการยกตัวของภาคอีสาน เห็นภาคกลาง
อุทยานแห่งชาติในชัยภูมิ ได้พามาเที่ยวแล้ว ๓ แห่ง แม้จะไม่ละเอียดนัก แต่ก็พาเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ อช.ป่าหินงาม พาเที่ยวป่าหินงาม ทุ่งดอกกระเจียว และ จุดชมวิวสุดแผ่นดิน อช.ตาดโตน พาชมน้ำตกตาดโตนที่สวยและมีบริเวณสะอาด งดงามอย่างยิ่ง อช.ภูแลนคาในท้องที่ อ.เมือง อ.บ้านเขว้า อ.หนองบัวแดง อ.เกษตรสมบูรณ์ ซึ่งกำลังดังเพราะไปชมหินที่เรียกว่า มอหินขาว หรือ Stone Henge ซึ่งเป็นกลุ่มหินที่สวยงาม แม้จะไม่งามเท่าที่ประเทศอังกฤษ แต่ต้องถือว่าสวย และแปลก ส่วน อช.น้ำพอง ผมเคยพาไปเขื่อนจุฬาภรณ์ ไปทุ่งกะละมังมาแล้ว ยังเหลืออุทยานสำคัญ ที่นักท่องเที่ยวเพิ่งจะรู้จักและเริ่มไปเที่ยวกัน ก็คือ อุทยานแห่งชาติไทรทอง
อุทยานแห่งชาติไทรทอง อยู่บริเวณเทือกเขาพังเหย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายางกลัก ประกาศเป็น อช.เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ มีเนื้อที่ ๓๑๙ ตารางกิโลเมตร อยู่ในท้องที่อำเภอหนองบัวระเหว ( อ่านหนองบัวระ WAE) อำเภอเทพสถิต อำเภอภักดีชุมพล และ อำเภอหนองบัวแดง การเดินทางไปไม่ยากถนนลาดยางอย่างดี แต่จะยากตอนจะขึ้นไปชม ผาหำหด และ ทุ่งบัวสวรรค์ ( ทุ่งดอกกระเจียว ) ซึ่งอยู่ไกลไปจาก อช.ประมาณ ๑๐ กม. รถเก๋งไปไม่ได้
เส้นทาง หากไปจากกรุงเทพฯผมขอแนะนำว่าให้ไปทางจังหวัดสระบุรี กรุงเทพฯ – สระบุรี เลยต่อไปอีก ๑๔ กม.ถึงสวนพฤกษศาสตร์ ก่อนถึงทางเข้าสวนเลี้ยวขวาเข้าถนนสาย ๒๑ พุแค – หล่มสัก วิ่งไปประมาณ ๕๐ กม.(ถนนสี่เลนตลอดสาย )ถึงสี่แยกม่วงค่อม ( เลี้ยวซ้ายไปโคกสำโรง ลพบุรี ) ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสาย ๒๐๕ ไปผ่าน อ.ชัยบาดาล ตรงต่อไปจนพบสามแยก(หักข้อศอก ) ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนน ๒๐๕ ( หากตรงไป ไปวัดบ้านไร่ของหลวงพ่อคูณ อ.ด่านขุนทด ) วิ่งต่อไปจนถึง อ.ลำสนธิ ( อำเภอสุดท้ายของลพบุรี ) ตรงต่อไปตามถนนสาย ๒๐๕ อีกประมาณ ๔๐ กม.จะถึงอำเภอเทพสถิต ผ่านตลาดแล้วให้แยกซ้ายเข้าถนนสาย ๒๓๕๔ วิ่งไปประมาณ ๑๗ กม. แยกซ้ายเข้าถนนอุทยานป่าหินงาม ไปตามเส้นทางนี้อีก ๑๓ กม. จะถึง อช.ป่าหินงาม ยิ่งใกล้จะถึง รีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายต้นไม้มีมากมาย จนทำให้ความเป็นธรรมชาติลดน้อยลงไป ผมเดินทางไปวันพฤหัศเพราะจะเลี่ยงความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว ออกจากกรุงเทพฯประมาณ ๐๘.๓๐ มาถึงอำเภอเทพสถิตเที่ยงพอดี ได้เวลาอาหารกลางวัน ก่อนถึงตัวอำเภอเห็นยกป้ายไว้หลายแห่ง
ว่าลาบเป็ดเทพสถิต ไร่องุ่นเทพสถิต ทางเลี้ยวซ้ายเข้าไร่หรือร้านอาหาร เลี้ยวก่อนถึงอำเภอเทพสถิตประมาณ ๔ กม.ประมาณ กม. ๒๘๘.๕๐ ไปตามถนนลูกรังแคบๆประมาณ ๕๐๐ เมตร ผ่านร้านอาหาร อยู่ริมผา มองเห็นเทือกเขาพังเหยอยู่ไม่ไกลนัก เห็นไร่องุ่นอยู่ข้างล่าง ไร่นี้มีที่พัก ห้องแอร์ราคา ๑,๕๐๐ บาท ห้องพัดลม ๕๐๐ บาท อาหารมีขนมจีนบุฟเฟต์อิ่มละ ๓๐ บาท ไม่ได้ลองชิม สั่งตามที่เขายกป้ายประชาสัมพันธ์ไว้ คือ ส้มตำไทย ( ๓๕ บ. )สั่งไม่เผ็ด ออกรสหวานนิดๆอร่อยทีเดียว ลาบเป็ดพอใช้ ปีกไก่ทอด แทะสนุกดี และข้าวผัดหมูอีกจาน
อิ่มแล้ว ออกเดินทางต่อไปอีก ๔ กม.ถึงทางแยกซ้ายเข้าถนน ๒๓๕๔ไปยัง อช.ป่าหินงาม แวะเที่ยวป่าหินงาม ทุ่งดอกกระเจียว ชมวิวที่สุดแผ่นดินแล้วย้อนกลับออกมา ลงเนินตลอดขับรถไม่ต้องเหยียบคันเร่งเลย จนมาออกถนนสาย ๒๓๕๔ อีกครั้ง เลี้ยวซ้ายไปประมาณ ๒ กม.ที่กม.๑๙.๘๐ จะพบป้าย รีสอร์ท เลี้ยวขวาเข้าถนนเข้าหมู่บ้านไปอีก ๕ กม. พบป้ายใหญ่ชี้ทางให้เลี้ยวซ้ายไปอีก ๔๐๐ เมตรก็จะเข้าสู่สวนมะม่วง มันเขียวใหญ่ รีสอร์ทอยู่ท่ามกลางสวนมะม่วงแห่งนี้ ริมสระน้ำ รีสอร์ทแห่งนี้ผมเคยมาพักเมื่อปีที่แล้ว ติดใจในบรรยากาศ ความใจถึงของเจ้าของที่กล้ามาสร้างห่างไกลจาก อช.ป่าหินงามถึงประมาณ ๒๐ กม. ไม่ไปสร้างรวมกลุ่มกับเขาที่ปากทางเข้า อช.ป่าหินงาม มีสระใหญ่ มีหิ่งห้อย มีเรือนพักเล็กๆแต่ปลูกสวย สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม หลังใหญ่ก็มี กางเต้นทก็ได้และที่ดีมากควรชิม คือ อาหารเย็น ไปพักอยู่ ๒ คืน มื้อเย็นวันแรก น้ำพริกลงเรือ พร้อมผักลวก และผักสด ซี่โครงหมูทอด ผัดผักรวม ไม่น่าเชื่อว่าฝีมือแม่ครัวเป็นคนในหมู่บ้านจะทำอาหารภาคกลางได้อร่อยขนาดนี้ ของหวานเป็นผลไม้มะม่วงมันเขียวใหญ่สุกหวานชื่นใจ และแกงบวดมะม่วงมัน แปลกไม่เคยกิน เหมือนมันแกงบวด ติดใจมา ๒ ปีแล้ว วันกลับต้องซื้อกิ่งมะม่วงมันเขียวใหญ่หรืองามเมืองย่ากลับมาด้วย ขายต้นละ ๒๐๐ บาท ลูกจะโตมากขนาด ๗๐๐ กรัม – ๒ กก. มื้อเช้า ไข่กระทะ ปาท่องโก๋ ทอดกันข้างๆศาลาลีลาวดี ที่นั่งกินอาหารนั่นแหละตามด้วยข้าวต้มร้อนโฉ่ กับข้าว ๔ อย่าง อิ่มแล้วไปเที่ยว อช.ไทรทอง กาแฟตั้งกาน้ำร้อนไว้ให้ ชงกินได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง มื้อเย็นอีกวัน น้ำพริกตาแดงอร่อยมากหรือมากๆผักลวกมีดอกขจรลวกด้วย เห็ดหอมสดผัดซีอิ้ว ซี่โครงหมูตุ๋นซดชื่นใจ และยังมีต้มยำบ้านไร่ ใช้ผักกาดกระป๋อง หมูสับ ใส่สมุนไพรหลายอย่าง อร่อยแปลกดี ของหวานมื้อนี้ แกงบวดฟักทอง ใส่มะพร้าวอ่อน ส่วนอาหารเช้าวันรุ่งขึ้น ไข่กระทะ ปาท่องโก๋ทอดร้อนๆ ข้าวต้มกับข้าว มีหมูทอด ไข่เค็มผัด คะน้าปลาเค็ม และยำเกี๊ยมฉ่าย พัก ๒ วัน ชิมอาหาร ๔ มื้อ กลับมาน้ำหนักขึ้นเลย
อิ่มอาหารเช้าวันแรกแล้ว กลับออกมาถนน๒๓๕๔ เลี้ยวขวา ( เลี้ยวซ้ายไป อ.เทพสถิต ไป อช.ป่าหินงาม )ผ่าน อนามัยตำบล ที่นี่เรียก ศูนย์สุขภาพชุมชน วังใหม่พัฒนา วิ่งไปประมาณ ๑๙ กม. มีป้าย อช.ไทรทอง บอกเป็นระยะๆจะพบทางแยกซ้าย ( ตรงไป ป่านายางกลัก หนองบัวระเหว )เข้าถนนทางหลวงชนบทสาย ๔๐๐๖ เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ ๒๐ กม. บรรจบ ถนนสาย๒๒๕ ทีนี้จะงง ป้ายที่มีบอกมาตลอดพอมาถึงสามแยกจุดบรรจบ ไม่มีป้ายบอก ตัดสินใจเลี้ยวซ้ายปรากฏว่าผิด ถึงสามแยกต้องเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ ๗ กม.พบป้าย อช.ไทรทอง ให้เลี้ยวซ้ายไปอีก ๘ กม. จะถึงที่ทำการและศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่ให้การบริการเป็นอย่างดี รถเก๋งหมดสิทธิ์ขึ้นไปชม ผาหำหด และทุ่งบัวสวรรค์ ต้องไปรถกระบะหรือรถโฟวีลดีที่สุด
เส้นทางท่องเที่ยว เส้นทางที่ ๑ ออกจากศูนย์ฯไปนิดเดียวต้องข้ามลำห้วย รถเก๋งจอดไว้ ไปไม่ได้ รถกระบะมีแบบเหมาทั้งคัน ราคาคันละ ๕๕๐ บาท หรือ หัวละ ๖๐ บาท แต่ต้องมีคนไปรวม ๘ คนจึงจะไป และไปส่งแล้วรถจะกลับเลย ส่วนเราจะเดินไปเที่ยวต่อยังผาหำหด ทุ่งบัวสวรรค์แล้วกลับรถคันไหนก็ได้ที่พานักท่องเที่ยวชุดต่อไปมาส่ง จุดท่องเที่ยวเส้นทางนี้ ยังไม่ผ่านทุ่งดอกกระเจียว ซึ่งที่ อช.ไทรทอง จะมีดอกกระเจียวสีขาว ซึ่งหาชมที่ไหนไม่ได้ และทุ่งดอกกระเจียวสีชมพู แต่การจะได้ชมทุ่งดอกกระเจียวหรือเรียกว่าทุ่งบัวสวรรค์ หากขึ้นไปตามเส้นทางที่ ๑ เดินไปผาหำหดและต้องเดินผ่านทุ่งดอกกระเจียวทุ่ง ๔,๓ และ ๒ ไป เป็นการเดินบนสันเขา จนถึงทุ่งสุดท้ายคือ “ทุ่งบัวสวรรค์ ทุ่ง ๑ “ ซึ่งจะมีดอกกระเจียวมากที่สุด มากด้วยสีชมพูเข้ม และแซมด้วยดอกสีขาว หนาแน่นเต็มทุ่งจริงๆ หากเอาความงาม ความหนาแน่นของดอกกระเจียว ของอช.ป่าหินงามมาเทียบแล้ว ห่างกันมาก ดอกกระเจียวทุ่ง อช.ไทรทอง ควรไปชมในกลางเดือนกรกฎาคม ไม่ควรเกินต้นเดือนสิงหาคม จะบานหนาแน่นสวยมาก ผู้ที่เดินไปจากผาหำหด เดินไป ๒ กม ผ่านจุดท่องเที่ยวหลายจุด พอมาถึงทุ่ง ๑ท่าทางที่อ่อนระโหยโรยแรงจะตาย มิตายแหล่ ก็จะพลิกฟื้นคืนร่างขึ้นมาทันที และที่ทุ่งนี้จะมี ผาอาทิตย์อัสดง ซึ่งจะมองเห็นหมู่บ้านและอำเภอ ภักดีชุมพล
พอเขาบอกว่าต้องเดิน ๒ กม.บนสันเขา ไปกลับ ก็ ๔ กม.มาปลงสังขารตัวเองแล้ว คิดว่าอย่าหาความเดือดร้อนให้คนอื่นเขาต้องแบกหามกันลงมาดีกว่า และไปกัน ๒ คนด้วยไม่รู้ใครจะแบกใคร ทางศูนย์ฯเขาก็แนะนำว่าหากไม่คิดไปผาหำหดแล้วเดินต่อ ให้เช่ารถไปรวดเดียว แต่หารถเช่ายากหน่อย เพราะเขาจะวิ่งรอกไม่ได้ ไปส่งแล้วต้องรอรับกลับเลย ค่ารถประมาณ ๗๕๐ บาท คนขับรถขอดูตัว มาบอกทีหลังว่าเห็นท่าน( เรียกท่านเสียด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้บอกว่าผมเป็นใ คร) ท่าจะเดินไม่ไหว เลยรับไปส่งให้ รถพาวิ่งย้อนกลับออกมาจาก อช.ไทรทอง กลับมาถนน ๒๒๕ เลี้ยวขวาไปสามแยกที่ผมเลี้ยวผิด เลยสามแยกไปอีกนิดมีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาไปทุ่งบัวสวรรค์ ถนนดี ๔ กม. ลูกรังขลุขละอีก ๔ กม.จะผ่านทางแยกซ้ายรถเข้าได้ไป ชมหินเทิน ที่เหมือนเอาลูกฟุตบอลยักษ์ไปวางไว้บนก้อนหิน เลยต่อไปจนถึงลานจอดรถ มีร้านอาหาร ๑ ร้าน ข้าวผัด ข้าวผัดกระเพรา ไก่ย่าง ข้าวนึ่ง เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวร้องได้คำเดียวว่าอร่อยเหลือเกิน แต่หากยกมาขายที่ตลาดน่ากลัวขายแย่หน่อย พวกที่ขึ้นทางผาพ่อเมือง จะผ่านทุ่งบัวสวรรค์ ๔,๓,๒และ ๑ ซึ่งทุ่ง ๑ นิ้อยู่ห่างจากลานจอดรถร้านอาหารอร่อยมาก ( เมื่อเดินมาจากผาพ่อเมือง )สัก ๑๐๐ เมตรมีทางเดินแคบๆปูด้วยหิน เดินไประหว่างดอกกระเจียวที่งามเต็มทุ่ง และขึ้นหนาแน่น ต้นกระเจียวในทุ่งก้านดอกจะยาวประมาณ ๔๕ ซม. แต่ที่เขาเพาะมาตั้งขายจะมีก้านยาว ๓๐ ซม.เท่านั้น เดินไปจากลานจอดรถ ไปจนสุดทางที่ผาอาทิตย์อัสดง ระยะทาง ๓๘๕ เมตร เดินขึ้นอย่างเดียว บางจุดมีม้ายาวให้นั่งพัก เดินแทบจะไม่เหนื่อยเพราะดอกกระเจียวสวยเหลือเกิน กระเจียวที่ป่าหินงามขึ้นไม่หนาแน่นเหมือนทุ่งบัวสวรรค์ และมีกระเจียวขาวดอกเล็กแซมอยู่ เดินไปถึงผาอาทิตย์อัสดงแล้ว ไปชมวิวมองดูหมู่บ้านและมองทางซ้ายจะเห็น อำเภอภักดีชุมพล เห็นแผ่นดินที่อยู่ต่ำลงไป เห็นเทือกเขาที่อยู่ไกล ดอกกระเจียวนั้นมีหลายชนิด กระเจียวบัวสวรรค์ กระเจียวขาว ( เทพอัปสร ) กระเจียวเขียว (ช่อมรกต ) กระเจียวพลอยชมพู หรือ ฉัตรทิพย์ กระเจียวหงส์ กระเจียวฉัตรแก้ว ช่อใหญ่เป็นชั้นหาดูได้จากร้านขายดอกกระเจียว ชมจนอิ่มใจ พักจนหายเหนื่อยก็เดินกลับมาจากผาอาทิตย์อัศดง มาด้วยความหิว โดดเข้าร้านอาหารสวัสดิการทันที ขาวผัดกระเพราไข่ดาวคนละจาน สั่งน้ำอัดลมมาอีก ๒ กระป๋อง ชาเขียวอีกขวด ค่อยมีแรงนั่งรถกลับไป อช. แต่พวกที่เดินมาจากผาพ่อเมือง ต้องเดินกลับไปอีก ๒ กม.
เมื่อถึง อช.ขอบใจเจ้าหน้าที่และโชเฟอร์ที่มีน้ำใจพาไปเที่ยว เพราะเส้นนี้เขาไม่ค่อยอยากไป แต่เห็นเป็นส.ว.และวันราชการคนเที่ยวน้อย ขอแนะให้ไป อช.ไทรทองวันราชการจะได้หารถไปทุ่งบัวสวรรค์๑ ได้ ยังไม่จบรายการ ขับรถจากอช.ไปอีกประมาณ ๒ กม.แล้วเดินไปอีก ๓๐๐ เมตร ชมน้ำตกไทรทอง หรือจะลงเล่นน้ำก็ได้ น้ำตกเป็นฉากสวย แอ่งน้ำใหญ่ น่าโดดลงไปเล่นน้ำ
................................................
| บน | |