| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
เรารักกันหมายมั่นในใจ หากฉันผิดจงคิดอภัย ฉันผิดไปยกโทษให้ฉัน |
ทำไมลงโทษลงทัณฑ์ ประนามแต่ฉันคนเดียว สัมพันธ์ขาดเกลียวไม่เหลียวมา |
ฉันคงเผลอจิตพลาดผิดวาจา รักจึงแรมราพลอยพาให้กลุ้มใจ |
เธอมิควรหลงด่วนประนาม ผิดนิดหน่อยใจฉันเลวทราม รักปรับความเข้าใจกันได้ |
ทำดีมามากปานใด ทำไมไม่เห็นความดี น้อยหรือกลับมีแต่ช้ำใจ |
แม้เธอหลงโกรธโทษผิดอันใด หลงเคืองทำไมอภัยกันเถิดดี |
ใจระทมขมขื่นอาลัย ยิ่งจะข่มยิ่งร้าวดวงใจ ฉันผิดไปนิดเดียวเท่านี้ |
ทำไมจึงโกรธทันที่ ความดีที่ฉันเคยทำ น้อยกลับจำให้ช้ำใจ |
หรือเป็นเพราะบาป แช่งสาปเป็นไป ขอบุญดลใจพาเธอให้กลับคืน |
ใจฉันครวญหวลโศกระทม ก่อนเคยอยู่ชื่นชูเคยชุม รักกลับตรมระทมไม่ชื่น |
เวรกรรมทนกล้ำทนกลืน ดวงใจให้ฝืนอาวรณ์ รักมาบั่นทอนสะท้อนใจ |
หรือเธอหลงโกรธโทษผิดอันใด ฉันยังแคลงใจตัวใครเป็นผิดกัน |
คนอาภัพ
ฉันอาวรณ์ร้อนเร่าดวงใจ เปรียบเหมือนมีไฟ มาจี้หัวใจให้วอดวาย |
จะต้องหมองหม่นไปจนตาย คิดไปให้หน่ายใจนึกเบื่อหนักหนา |
ระกำเท่าไรไม่นำพา ให้เพียงชื่นวิญญา ถ้ามีรักมาชื่นใจ |
หรือรูปร่างฉันชั่วกระมัง ใครเห็นใครชัง ทำให้ระกำอยู่ร่ำไป |
ขาดความรักเราเท่าขาดใจ หัวใจหมองไหม้อีกเมื่อไหร่จะหาย |
หรือต้องวิโยคโศกจนตาย โลกเราช่างกลับกลาย บ่นไปแล้วอายผู้คน |
รักเคยมีมิได้แอบอิง อาภัพจริง ๆ ทุกสิ่งร้างราพาดิ้นรน |
เกิดมาเสียเปล่าเราอับจน ทุกวันฉันบ่นจนหมองหม่นอับเฉา |
ระกำทนอยู่สู้ทนเอา หากใครช่วยแบ่งเบา คงไม่ซบเซาเศร้าใจ |
หรือชะรอยชาติก่อนมีกรรม ชาตินี้จึงทำ ขมขื่นระกำอยู่ร่ำไป |
อับจนทุกสิ่งยิ่งกว่าใคร ขอพรวอนไหว้คืนรักให้แก่ฉัน |
ฟ้าดินไม่โปรดโทษใครกัน ต้องทนเฝ้ารำพัน บ่นไปทุกวันทุกคืน |
คนึงครวญ
อยู่เดียวเปลี่ยวอกเอ๋ย ฉันเคยฟังเธอพร่ำ |
นั่งเคียงสดชื่นล้ำ หวานคำฉ่ำทรวงใน |
อกใจให้คิดถึง คนึงถึงเธอได้ |
ฝากคำพร่ำกันไว้ เสียวใจให้รำพึง |
ยามนอนต้องถอนใจ หวงคู่ฤทัยตรึง |
ความรักให้ใจใฝ่ถึง ใจหวลคนึงทุกวัน |
ฝากคำพร่ำรำพึง คิดถึงตรึงตรามั่น |
โอ้เธออย่าลืมฉัน ทุกวันคนึงครวญ |
ครวญสวาท
คำร้อง เอิบ ประไพเพลงผสม ทำนอง เวส สุนทรจามร
โอ้เดือนผ่องเพ็ญ ประกายเยือกเย็นเด่นตา เบื้องบนฟากฟ้านวลใย |
แต่เรายิ่งมองยิ่งหมอง สุดครองหทัย ตื้นตันหวั่นใจอารมณ์ |
คร่ำครวญอกเอย คู่เชยล่วงเลยสุดหวัง โอ้ความเบื้องหลังรอนรม |
ไม่อยากเอ่ยคำให้ช้ำ จักทำให้ตรม ยอดชู้คู่ชมลืมฉัน |
ร่มไม้ใบบัง เหมือนดังเรือนหอรออยู่ เงาไม้หรุบหรู่รักคู่ผูกพัน |
เคยฝังดวงใจไว้ใต้ ดวงเดือนด้วยกัน ภิรมย์ชมจันทร์สุขสันต์ไม่เลือน |
จากกันสุดไกล แต่ใจไม่เคยจืดจาง เปลี่ยนใจอ้างว้างแรมเดือน |
ฝากรอยให้เราเฝ้าฝัน โศกศัลย์ไม่เลือน ค่ำคืนยิ่งเตือนหัวใจ |
ค่อนคืน
ค่อนคืนตื่นตาอุราพะว้าพะวัง | ใจฉันยังห่วงอาวรณ์ |
ไม่เคยหลับนอน | ใจทอดถอน นอนแต่เพียงกาย |
ก่อนเคยแอบเอียงอยู่เคียง ฟังเสียงรำพัน | จะรักกันตราบจนตาย |
แต่มากลับกลาย | เคยมั่นหมายไยไม่มา |
คอยวันคอยคืนฝืนตรม | คอยคู่เคยสมภิรมย์อุรา |
มีแต่หมอนเรียงเคียงกายคล้ายแทนดวงหน้า | อนิจจาอาวรณ์ |
อยู่เพียงแต่รอยรูปกายที่ฉันยังคอย | ประทับรอยที่เคยนอน |
สวดมนต์อ้อนวอน | คอยคู่นอนจนค่อนคืน |
คอย
ป่านนี้ดวงใจคงทุกข์โศกตรม | เฝ้าระทมซบหมอนสะอื้น | กล้ำกลืนสุดทรมาน |
ป่านนี้คงร่ำแต่น้ำตานอง | ป่านนี้คงมองจะคอยพบพาน | ป่านนี้ซมซานแทบจะขาดใจ |
ป่านนี้คงคอยนานแสนจะนาน | เหตุเพราะมารมาขวางกางกั้น | จากกันเป็นรอยอาลัย |
ป่านนี้คงเพียงแต่หวังรอคอย | แต่นี้เป็นรอยติดตรึงฝังใจ | เหมือนตกอยู่ในอเวจี |
โอ้ ดวง ใจ เอ๋ย เคยชื่นฉ่ำ | ลิขิตขีดนำเพียงนี้ | |
ซากรักเตือนใจตราบจนชีวัน | ไม่ขอลืมกันจวบจนชีว | ฝากเพียงคำนี้ไปตามสายลม |
ป่านนี้ดวงใจคอยเหมือนพี่คอย | จะฝังรอยจารึกไว้มั่น | ไม่มีวันแปรยอมตรม |
ชาตินี้มีกรรมกั้นรักเราไกล | ขอครองใจให้เพียงชู้ชม | จะสุดระทมจะขอรอคอย... |
คำปฏิญาณ
เสียงเพลงรักพันแว่ว ดังแผ่วคลุกเคล้า เร้าอารมณ์มาไกลแสนไกล |
ฟังยิ่งเพลินในฤทัย จับใจในคำของเพลง ช่างบรรเลงเสนาะน่าฟัง |
แสงดาวขาวพราวดูเด่น เคยได้แลเห็น ยังสงสัยลืมแล้วหรือยัง |
ใจฝังคิดถึงความหลัง ที่ฝังฤทัยใจจำ ฝากถ้อยคำไว้ให้แก่กัน |
ต่างชวนชี้กันชมเมฆงาม แดนฟ้าสวยอร่ามตา ดารานั้นเคียงจันทร์ |
ฝากรักกันด้วยคำมั่น ใฝ่ฝันละเมอ ดังหนึ่งคนเพ้อรำพัน |
ฉันยังคิดถึงเธออยู่ ใครเล่าจะรู้ ว่าเฝ้าคอยแต่เธอทุกวัน |
ใจเฝ้าคิดถึงความฝัน เหมือนไฟร้อนรุ่ม กลุ้มในใจเหลือจะประมาณ |
หนาวเย็นน้ำค้างกลางดึก ใจสั่นระทึก เฝ้าแต่นึกถึงคำสาบาน |
เคยกล่าวคำปฏิญาณ ต่อหน้าพระเป็นประธาน ร่วมสาบานก่อนจะจากไกล |
เหมือนเทพเจ้าดลจิต ใจเฝ้าแต่คิด ใจจิตตรึงนึกถึงมิวาย |
เธอจากไปอยู่แห่งไหน มองดูแสงจันทร์ แล้วใจใฝ่ละเมอถึงเธอมาเยือน |
มองดูฟ้าดาราเด่นพราว แดนฟ้าขาวสะอาดตา ดารานั้นเคียงเดือน |
ดูคล้ายจะคอยเป็นเพื่อน กระซิบใจเตือน ให้ห่วงคอยหาทุกนาที |
ขอให้แสงจันทร์ที่ส่อง ช่วยบอกนวลน้อง ว่าคู่ครองหม่นหมองฤดี |
เดือนช่วยบอกแก่นวลฉวี ว่าในหัวใจเรานี้ เฝ้าละเมอถึงเธอไม่วาย |
คำมั่นสัญญา
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน |
แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร ขอพบพานพิสวาทมิคลาดคลา |
แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา |
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมปทุมทอง |
แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงส์ จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง |
ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิสวาททุกชาติไป |
คำสารภาพ
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
พี่มาสารภาพพี่เคยสร้างบาป ฉันกลับมาหาดวงใจ |
ฉันผิดไปแล้วปานใด ยกโทษให้ฉันเป็นไร ขอเพียงยกให้บาปหาย |
โธ่เอยฉันชั่วตั้งใจกลับตัว ล้างชั่วที่ฉันทำลาย |
ฉันสู้ทนฝืนทรงกาย ฉันสู้ทนฝืนความอาย ขอเพียงมาตายเคียงกัน |
ใจรอน ๆ วอนคำ ช่วยปลดกรรมให้หายพลัน |
ฉันร้องไห้รำพัน สู้กัดฟันสู้มา |
ด้านมาสารภาพ ด้านจนก้มกราบ รับบาปที่ฉันทำมา |
แม้หากไม่คิดเมตตา หากเธอหมางเมินนำพา ต้องกลืนน้ำตาจนตาย |
คำหอม
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เวส สุนทรจามร
ลมโบกหวลกลิ่นหอม หอมชวนเด็ดดอมคำหอมเจ้าเอ๋ย |
กลิ่นนี้พี่เคย เคยได้แนบเขนย อกเอ๋ยหวลคนึง |
เพียงแต่กลิ่นล่องลม ชื่นชมซาบซึ้ง |
ชวนให้คิดติดตรึง ใจตระหวัดคนึงถึงสาวเจ้า |
ชวนให้ใจพี่เหงา จำว่ากลิ่นเจ้าเศร้าอยู่ในใจ |
เนื้อนวลอวลกลิ่นประทินเดียวกัน ขวัญเคยแนบขวัญรักกันชิดใกล้ |
หอมเอยเคยชื่นใจ หอมใดไม่ซึ้งถึงอารมณ์ |
ขวัญพุ่มปทุมมา กลีบบัวยั่วตาพริ้วพากระเพื่อมลม |
ผ่องศรีที่พี่ชม สีนวลชวนชื่นอารมณ์ |
ดุจดังสีแพรเจ้าห่ม ปิดถันกันลมซ้ำชมให้เศร้าใจ |
เจ้าเอยเจ้าคำหอม เจ้าเนื้อหอม หอมชวนใคร่ |
ต้องจิตเตือนใจ ยิ่งคิดไปชวนให้ตระกอง |
โอ้มือพี่เคยโลมเล้า สาวเจ้าเคยเอามือป้อง |
แต่ไม่พ้นมือพี่ต้อง หวงยิ่งกว่าทอง แต่น้องยังให้ชื่นใจ |
ยอดชู้คู่เชย ขวัญเอยอย่าเลยจากไป |
โอ้คำหอมเอยเคยชิดใกล้ อีกนานเท่าไรขวัญใจจะกลับมา |
ยอดชู้คู่ชม ภิรมย์ชมชื่นอุรา |
เพื่อนชายร้อยคนมากล้นค่ำ ไม่ชื่นอุราเหมือนเจ้าเพื่อนชม |
คิดจะปลูกต้นรัก
คิดจะปลูกต้นรักสักกอ | เกรงว่าหน่อ รักนั้นจะกลาย |
ความรักเรา ยังไม่วาย | ระกำ ช้ำชอกอุรา |
รักแต่ก่อน มาย้อนยอกเรา | ใจเราเศร้า เมื่อคิดขึ้นมา |
รักเราเอ๋ย เคยได้สัญญา | เจ้ากลับมา วนเวียนเปลี่ยนแปร |
เราเคยสด เราเคยชื่นเคลียคลอ | ใจเธอหนอ กระไรไม่แน่ |
ใจเจ้าเปลี่ยน เจ้าปรวนเจ้าแปร | ฉันสุดจะแก้ กลับคืน |
คิดจะปลูกต้นรักสักกอ | เกรงว่าหน่อรักนั้น ไม่ยืน |
ใจเรา ต้องกล้ำต้องกลืน | ทนฝืนใจอยู่แต่ผู้เดียว |
เราเคยสด เราเคยชื่น เคลียคลอ | ใจเธอหนอ กระไรไม่แน่ |
ใจเจ้าเปลี่ยน เจ้าปรวนเจ้าแปร | ฉันสุดจะแก้ กลับคืน |
คิดจะปลูกต้นรักสักกอ | เกรงว่าหน่อรักนั้น ไม่ยืน |
ใจเรา ต้องกล้ำต้องกลืน | ทนฝืนใจอยู่แต่ผู้เดียว |
คิดถึง
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
คิดถึงใจจะขาดแล้วเอย คิดถึงที่เคยได้ชมได้เชยชื่นใจ |
คิดถึงรอยยิ้มเพราพริ้มผ่องใส คิดถึงจนใจจะขาดรอน |
คิดถึงดวงหน้าหวานละมุน คิดถึงความอุ่นที่เคยได้หนุนตักนอน |
คิดถึงแต่เสียงกระซิบอ้อนวอน คิดถึงจนนอนละเมอทุกวัน |
สัมผัสรัดน้องอ้อมกอด ฉอ้อนออดนุ่มนวลชวนให้ฝัน |
ยังฝังใจชื่นทั้งคืนทั้งวัน เราเคยรักกันลืมแล้วหรือดวงใจ |
คิดถึงใจจะขาดร้าวรอน คิดถึงความก่อนให้สะท้อนร่ำไป |
คิดถึงแต่รสจุมพิดติดใจ คิดหวนอาลัยไม่รู้ลืม |
คิดถึงฉันบ้าง
คำร้อง แก้ว อัฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
รักเอยหวานฉ่ำมาเลือนร้างจำห่าง คิดถึงฉันบ้างอย่างร้างแรมเลือน |
น้ำคำน้ำใจติดตรึงถึงแรมเดือน รอยหยิกติดเตือนให้จำเสมอ |
แท้จริงฉันใคร่จะไปรักใครอื่น รักเดียวรักชื่นเท่านั้นคือเธอ |
รักใครร้อยคนไม่เคยคิดปรนเปรอ ใจมั่นเสมอรักเธอไม่หน่าย |
รักแล้วมิแคล้วคลาดหวัง อย่าเคืองคิดชังเบี่ยงบ่าย |
ขาดเธอเหมือนใจจะขาดหาย อกใจสลายแรมลา |
ฉันยังรักมั่นคอยวันสัมพันธ์คู่ ฉันรักรักอยู่ไม่รู้โรยลา |
ฉันยังพะวงว่าเธอนั้นคงมา จงกลับมาหารักพามาด้วย |
คิดถึงน้อง
จันทร์กระจ่างฟ้า นภาประดับด้วยดาว |
โลกสวยราวเนรมิต ประมูลเมืองแมน |
ลมโชยกลิ่นมาลา กระจายดินแดน |
เรียบนี้แสนคนึง ถึงน้องนวลจันทร์ |
งามใดหนอจะพอ ทัดเทียมเปรียบน้อง |
เจ้างามต้องตาพี่ ไม่มีเหมือนใคร |
ถ้าหากน้องมาด้วย และช่วยชมเดือน |
โลกจะเหมือนเมืองแมน แม่นแล้วนวลเอย |
คิมหันต์พิศสวาท
เมื่อคิมหันต์ฉันได้จูบเธอ | ต่างพร่ำเพ้อละเมออาลัย |
พอเหมันต์เธอกลับเปลี่ยนแปลงจางไป | ร้าวใจเมื่อไม่มีเธอ |
ต่างฝากคำรักพร่ำจูบพรม | เฝ้าชื่นชมรสรักบำเรอ |
ครวญคะนึงคราวหนึ่งที่เคยมีเธอ | ฉันรอคอยเธอไม่จาง |
โอ้ไฟรักร้อนเร่า แผดเผาดวงใจ | จนเหลือทนไม่รู้สร่าง |
โอ้ราตรีรัวราง เหมือนดาวพราวแสงพร่าง | ร่วงหล่นจากนภา |
เมื่อคิมหันต์ฉันได้จูบเธอ | ต่างพร่ำเพ้อละเมอวิญญา |
พอเหมันต์ก็กลับเปลี่ยนแปลงโรยรา | นิทราอาลัยไม่ลีม (ซ้ำ* ) |
คุณจะงอนมากไปแล้ว
คุณจะงอนมากไปแล้ว รู้ไหมแก้วตา | ผมชักระอาเต็มที (ช่ะ ช่ะ ช่ะ ช่ะ) |
ผมจะไม่ง้อ หรือก็ไม่ดี จะขาดไมตรี | คุณเห็นได้ที ยิ่งทำเป็นงอน |
เอาแต่ทำหน้าง้ำ คอยค้อนคว่ำไป | เจอพักตร์ทีไร ต้องวอน |
ผมขัดใจนิด นิดหน่อยแกล้งงอน | ตะบึงตะบอน ต้องคอยพร่ำวอน ง้องอนร่ำไป |
คิดตามใจตัว หรือก็เท่านั้น | ซ้ำดื้อรั้นยิ่งกว่าใคร |
จะเอาอะไรแล้วต้องดังใจ | ถ้าขืนร่ำไร ชักพาลผิดใจหน้างอ |
แม้นคุณคิดอยากได้เดือน หรือหวังได้ดาว | ผมมิต้องเอามาพนอ |
เห็นว่าได้ทีแล้วแกล้งให้พอ | อย่ารีอย่ารอยิ่งเฝ้าพนอ ยิ่งเอาดังใจ |
...คิดตามใจตัว หรือก็เท่านั้น | ซ้ำดื้อรั้นยิ่งกว่าใคร |
จะเอาอะไรแล้วต้องดังใจ | ถ้าขืนร่ำไร ชักพาลผิดใจหน้างอ |
แม้นคุณคิดอยากได้เดือน หรือหวังได้ดาว | ผมมิต้องเอามาพนอ |
เห็นว่าได้ทีแล้วแกล้งให้พอ | อย่ารีอย่ารอ ยิ่งเฝ้าพนอ ยิ่งเอาดังใจ.. |
ใครจะรักเธอเท่าฉัน
คำร้อง ส.สนิท ทำนอง สมพงษ์ ทิพยกลิน
ย่อมเป็นที่รู้กันอยู่แก่ใจ ว่าใครจะรักเธอยิ่งกว่าฉัน |
ตลอดโลกนี้มีดาวและเดือนเท่านั้น ที่สุดจะสรรเสกมาสนองให้ |
ห่วงใยใกล้ชิดคิดเพียงถนอม ไม่ยอมให้ช้ำระกำไฉน |
ให้เกียรติเสมอยกเธอไว้เหนือผู้ใด ถอดถ่ายกายใจให้ครองสัมพันธ์ |
หวังรักเธอยิ่งใหญ่ ไม่เคยชอบใครอื่นไหนเทียมทัน |
ถือเธอเธอคือมิ่งขวัญ ดังพรสวรรค์สร้างสุขเสมอ |
ซื่อตรงอย่างฉันมั่นคงอย่างนี้ จะมีบ้างไหมที่ใครเสนอ |
ไม่หน่ายไม่หนีหวังดีรักเดียวแด่เธอ เสน่ห์บำเรอตลอดชีวิตเอย |
| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน | |