| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | |
น้ำใจแห่งมิตรอันควรอาร ก็คือคนที่เขามีเมตตา เมื่อเราเกิดมาถือว่าญาติเดียวกัน |
รู้จักเกื้อกูลต้องอุดหนุนซึ่งกันดังว่า ต้องทำใจรักกันไว้ดีกว่า |
ขอเพียงอย่าหวังดวงใจอธรรม มุ่งแต่ก่อกรรมน้อมนำ...โศกศัลย์ |
หวังแก่งแย่งดี คอยเสียดสีมิได้มีใจ ...มั่น หากเขาดีแล้วควรดีเกื้อกัน อย่ามัวเดียดฉันท์ มิตรสัมพันธ์...จะคลาย |
ทุกวันโลกนี้มันเป็นความจริง ต้องต่างพึ่งพิงแล้วจึง...สมหมาย |
ใช่อยู่ลำพังจะหวังใดได้ดังใจกาย อุทาหรณ์นี้ซิไม่ควรหน่าย หากมีโชคร้ายแล้วยังได้พึ่งกัน |
ทุกคนเกิดแล้วยังมีวันตาย ต้องควรขวนขวายหมายดี...เท่านั้น |
แม้สร้างกรรมชั่วกรรมจะตามสนองตัวพัวพัน หากทำดีผลบุญดีทวีมั่น กู้เกียรติงามเฉิดฉันทุกวันจะรื่นรมย์ |
เมียจ๋า
โอ้อนาถ วาสนา | ถึงเวลา คราระทม |
แม่อีหนู ช่างหูเบา | เชื่อคำเขา จึงขื่นขม |
ตัดเยื่อไยให้พี่ตรม | ว่าทับถม เกินความจริง |
น้องโกรธใย ไล่ผัวจาก | ให้ผัวตกยาก โอ้น้องหญิง |
มาลืมอกแอบที่เคยแนบอกอิง | ต่างไฟผิง ในเชิงกราน |
พี่ลืมไม่ลง อีตรงตื่นนอน | กาแฟมาก่อนไข่ซ้อนใส่จาน |
น้ำล้างหน้าทั้งยาสีฟัน | น้ำหอมน้ำมัน เจ้าจัดเอาใจ |
จะไปทำงานจากบ้านตอนเช้า | เจ้าขัดรองเท้า เป็นเงาใส |
เสื้อผ้าเรียบกริบน่าหยิบสวมใส | งามวิไล ชวนให้มอง |
กลับบ้านค่ำอาบน้ำอาบท่า | เจ้าจัดข้าวปลามาสำรอง |
แม่เปิดตู้โชว์ยกโหลยาดอง | ตักให้ลอง คลายกังวล |
พี่ชอบผักน้องรักก็รู้ | ผักบุ้งถั่วพูจิ้มเต้าเจี้ยวหลน |
อิ่มหมีพีมันกันสองคน | ชื่นกมลแสนสำราญ |
กล่อมลูกไปให้ลูกหลับ | ร้องเพลงขับวิเวกหวาน |
กระท่อมทองกวาวหนอเพลงเก่ามานาน | บัวตูมบัวบานให้ลูกนอน |
พอลูกหลับขยับจูบลูก | แล้วนอนบนฟูกเคียงสมร |
อิ่มเอมใจไม่อนาทร | พี่มาเดือดร้อนเพราะคนปากคัน |
ปากยาวจริงยิ่งกว่าปากกา | เข้าตำราน่าขบขัน |
เห็นเรามีทุกข์ แล้วเขาคงสุขใจกัน | ไม่ช้าสวรรค์คงลงอาญา |
พระจงช่วยสาปให้บาปสิ้นที | ให้น้องปรานีรีบกลับเคหา |
นี่ผัวร่อนเร่แสนเวทนา | จากเมียน้ำตานอง |
กินไม่ได้นอนไม่หลับ | กระส่ายกระสับอกกลัดหนอง |
นี่ผัวทุกข์ตรอม ผ่ายผอมเป็นกอง | อย่าให้ต้องตรอมใจตาย... |
เมื่อวานนี้
เมื่อวานนี้ เรายังดีกันอยู่ | เหตุใดไม่รู้ หลงเคืองกัน |
ฉันเอง หัวใจได้แต่งงงัน | เธอโกรธฉัน ด้วยเหตุใด |
ผิดใจกันนิด แม้คิดอภัยกันหน่อย | อย่าทำใจน้อย คอยดูใจ |
สัญญา ของเรานั้นว่าอย่างไร | ไม่อภัย เชียวหรือเธอ |
โกรธกัน นั้นมันง่ายจริงนา | สบตา แล้วก็พา กันเก้อ |
เหินห่าง ดังไม่เคยเจอ | พึมพำพร่ำเพ้อ แล้วก็ตัดไมตรี |
ประโยชน์อะไร เห็นใจกันดีกว่า | อภัยเถิดหนา อย่างอนซิ |
หันมา ยิ้มกันซะหน่อยคนดี | แล้วจะให้ จูบนี้ แก่เธอ |
โกรธกัน นั้นมันง่ายจริงนา | สบตา แล้วก็พา กันเก้อ |
เหินห่างดังไม่เคยเจอ. | พึมพำพร่ำเพ้อ แล้วก็ตัดไมตร |
ประโยชน์อะไร เห็นใจกันดีกว่า | อภัยเถิดหนา อย่างอนซิ |
หันมา ยิ้มกันซะหน่อยคนดี | แล้วจะให้ จูบนี้ แก่เธอ |
แม่นางนกขมิ้น
โธ่เอ๋ยแม่นาง นกขมิ้น | เจ้ามาทิ้งถิ่น | บินไปอยู่ไหน เล่า เอย |
ปล่อยให้เขา มาชื่น เชย | ลืมกรงทองของเจ้าเลย | ที่เคยระรื่น สุขสันต์ |
...รูปสวยดั่งทอง เขา ปั้น | แต่ใจเจ้านั้น | ผันแปรไม่แน่ สักวัน |
หากใครหลง คงโศกศัลย์ | ดังกรงทองที่ใส่มัน | ผูกพันเป็นแผลตรมฤทัย |
โอ้ สาวสวยอย่าเอาเยี่ยงอย่าง | ปลื้มสุขแล้วไม่ควรห่าง | .จืดจางรักเวียน เปลี่ยนใจ |
หวังน้ำบ่อหน้าไม่ช้าคงต้องหมองไหม้ | เพียงรักช้ำพลาดไป | เหลือรอยอาลัยเจ้าจะระทม |
หากแม้นไม่มีใครเลี้ยงดูเจ้า | โปรดมาที่เก่า | ก่อนเจ้าได้เคย รื่น รมย์ |
...ข้าสิหวัง ยังเฝ้าชม | คอยคอยคอยเจ้าอกตรม | อย่าโลมยลโฉม นกขมิ้น |
โอ้ สาวสวยอย่าเอาเยี่ยงอย่าง | ปลื้มสุขแล้วไม่ควรห่าง | จืดจางรักเวียน เปลี่ยนใจ |
หวังน้ำบ่อหน้าไม่ช้าคงต้องหมองไหม้ | เพียงรักช้ำพลาดไป | หลือรอยอาลัยเจ้าจะระทม |
หากแม้นไม่มีใครเลี้ยงดูเจ้า | โปรดมาที่เก่า | ก่อนเจ้าได้เคย รื่น รมย์ |
ข้าสิหวัง ยังเฝ้าชม | คอยคอยคอยเจ้าอกตรม | อย่าโลมยลโฉม นกขมิ้น... |
แม้พี่นี้จะขี้เมา
ถึงแม้พี่นี้จะขี้เมา | ถึงพี่กินเหล้าจนเมามาย | ไม่เคยใจร้ายกับน้องสักหน่อย |
ไม่เคยคิดเที่ยวมีเมียน้อย | ไม่เคยทุบต่อยให้น้องซ้ำ | ไม่เคยได้ทำให้น้องอาย |
ถึงแม้พี่นี้จะขี้เมา | โถพี่ยังเฝ้าหาเงินทอง | เพื่อมาให้น้องได้ใช้และจ่าย |
อย่ามองเห็นพี่ในแนวร้าย | อย่าเพิ่งนึกหน่ายให้รักร้าว | ถึงพี่ขี้เมายังรักน้องมั่น |
พี่ดื่มสุราน้องว่าไม่ดีพี่ก็รู้ | พี่ไม่เจ้าชู้ก็นับว่าบุญนะเมียขวัญ | |
เห็นน้ำตาเมียอกพี่ละเหี่ยอยู่ทุกวัน | ร้องไห้ทำไมกัน ...เฮ้อ เมียจ๋า | |
ถึงแม้พี่นี้จะเมามา | เห็นหน้าเมียพี่ยังดีใจ | กอดคอกันไว้อย่าทุกข์ดีกว่า |
หากเมียของพี่เป็นนางฟ้า | หากบ้านแม้นว่าเป็นสวรรค์ | ไม่ช้านานวันพี่คงเลิกดื่ม |
ยากยิ่งสิ่งเดียว
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
จะเรียนจะร่ำจะทำอะไร | เออ…ไม่ลำบาก |
ยอดยากอยู่อยากเดียว | เออ…เกี้ยวผู้หญิง |
คำครูสุนทรภู่ | กล่าวพาดพิง |
ฉันไม่ท้วงติงเพราะว่าสมจริง | เออ…ยิ่งสิ่งใด |
ยิ่งตรองยิ่งเห็นเป็นเรื่องหนักใจ | เออ…ให้อาวรณ์ |
แม่กงแม่กนจวบจนกบเกย | เออ…เคยเรียนร่ำ |
บากบั่นหมั่นท่องจำ | ฮือ…ตามคำสอน |
เรียนกันถึงโคลงดั้น | ฮือ…กาพย์ ฉันท์ กลอน |
ทุกบททุกตอนฉันไม่ร้าวรอน | ฮือ…ไม่อับจน |
แต่เรียนเรื่องรัก หนักในกมล | เออ…จนปัญญา |
ยามจน
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
เราเป็นคนแสนยากจนทนเศร้า | อาภัพจริงเราคิดยิ่งเศร้าเหลือทน |
มิตรที่มีหลบหนีหน้าทุกคน | เพราะเรามันจน แสนจนผู้คนเขาเมินหน้า |
ก่ายหน้าผาก หักใจหวังได้หลับนอน | แว่วได้ยินเสียงคนปากบอนย้อนเอ่ยเย้ยมา |
โถจะนอนคนเขายังค่อนนินทา | ไม่ขอใครกินเลยนา ไฉนนินทาพาตรม |
* มีเงินทองนับเป็นน้องเป็นพี่ | ไปไหนก็มีมิตรไมตรีนิยม |
นับเช่นคนกว้างขวางในสังคม | หันหน้ากันมานิยม พูดชมทุกเวลา |
เกียรติศักดิ์นี่คงวัดกันด้วยเงิน | เมื่อเราจนเขาจึงได้เมินเหินห่างร้างรา |
หรือว่าคนนับถือพระเจ้าเงินตรา | ที่ไหนมีเงินนำพา ที่นั้นบุญมามีเอง (ซ้ำ *) |
เย็นลมว่าว
คำร้อง แก้ว อัฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
เย็นยามเมื่อเย็นลมว่าว ปัดลมร้อนผ่าว เป่าลมที่หนาวไปสิ้น |
ร่มเย็นทั่วทุกถิ่น บนแผ่นดิน สายลมรำเพยไป |
เย็นเย็นเพราะลมโชยเฉื่อย จิตใจหายเหนื่อย ด้วยลมชะโลมจิตใจ |
ว่าวน้อยลอยลมฉันพลอยรื่นรมย์ ยิ่งชมยิ่งคิดไปได้ สายลมชื่นใจว่าวลอยเหลิงไปเกลื่อนตา |
ดูดูเหมือนว่าวเริงร่าย จุฬาคว้าส่าย ปักเป้าเจ้าย้ายเริงร่า |
ยิ่งดู ดูเหมือนว่า เจ้าจุฬาคว้าไปไม่มีผ่อนเบา |
หลงความคะนองเพลินพล่าม จิตใจเหิมห่าม เพราะความโฉดเขลา |
โฉบฉายกลายมาเดี๋ยวเดียวจุฬา กลับมาติดเหนียงปักเป้า ฝืนดึงฉุดเอายิ่งพันรัดเอาแน่นตัว |
โอ้ความรักเราเหมือนว่าว ว่าวลอยหาญห้าว รักคราวที่รักเกลือกกลั้ว |
ไม่ดูดีหรือชั่ว ใจมืดมัวเพราะรักมัวติดตรา |
แม้ใครคะนองลองเล่น อวดดีถือเด่น จะเป็นเหมือนเช่นจุฬา |
ล่มเหลิงเริงใจ หลงเข้าบ่วงไป ก็ควรให้สมน้ำหน้า ช้ำอุราต้องกินน้ำตาร่ำไป |
แม้คนทนงเองเล่า จัดเจนเสียเปล่า ก็ยังโง่เขลาไปได้ |
พูดมาจริงหรือไม่ ใครต่อใครช้ำใจตายไปมากครัน |
ขอจงคะนึงดูบ้าง เล่ห์เหลี่ยมหลายอย่าง ต้องตรองทุกทางให้ทัน |
ว่าวเหลิงเริงลมหลงต้องป่านคม ขาดลอยหล่นผลอยไปนั่น รักเราเช่นกันหมั่นคอยระวังเถิดเอย |
เย้ยฟ้าท้าดิน
...ฟ้า...หัวเราะเยาะข้า ชะตาหรือ | ดินนั้นถือ อภิสิทธิ์ ชีวิต ข้า |
พรหมลิขิต ขีด เส้น เกณฑ์ชะตา | ฟ้า อินทร์ พรหม ยมพญา ข้า หรือเกรง |
ฟ้า หัวเราะ เยาะเย้ย เหวยเหวยฟ้า | พสุธา อย่าครวญว่า ข้า ข่มเหง |
เย้ย ทั้งฟ้า ท้าทั้งดิน สิ้น ยำเกรง | หรือใคร เก่ง เกิน ข้า ฟ้า ดินกลัว |
ข้า ขอ ลิขิต ชีวิตข้าเอง ไม่เกรง ดิน ฟ้า | อีก พื้นพสุธา พญายม พรหมอินทร์ ทั่ว |
ข้า กระทำ แต่กรรมดี มีหรือจะกลัว | มิใช่ใจชั่ว ลืม ตัว หลง ลำพอง |
อัน สวรรค์ อยู่ในอก นรก นั่นหรือ | ข้า ก็ถือ อยู่ในใจ ไม่ หม่น หมอง |
ละ การ ทำ ชั่ว ควรหรือจะกลัว นรก มั่นปอง | หาก ทำดี ฟ้าดินต้อง คุ้ม ครอง เอย |
รักข้ามขอบฟ้า
รักกันอยู่ขอบฟ้าเขาเขียว | เสมือนอยู่หอแห่งเดียวร่วมห้อง |
ชังกันบ่แลเหลียวตาต่อกันนา | เหมือนขอบฟ้ามาป้อง ป่าไม้มาบัง |
รักกันข้ามขอบฟ้า | ส่งใจมาแจ่มจีรัง |
เขาเขียวป่าเปลี่ยวบัง | ดังเสมือนห้องครองรักเดียว |
ชังกันผันพักตร์แล้ว | เนตรงามแพร้วหรือแลเหลียว |
โอ้ฟ้าป่าทิวเทียว | มาพรากให้ไกลจากกัน |
รักที่ถูกลวง
อนาถหนักหนารักพาให้ตรม หมองฤทัยระทม รักหวังชมตรมใจ |
เจ็บปวดอุราน้ำตาหลั่งไหล รันทดอาลัย ฉันร้องไห้ช้ำในกลลวง |
สะอื้นไห้หวลวิโยคโศกศัลย์ เขาชิงพรหมจรรย์ คิดทุกวันตันทรวง |
สุดปิดปกป้องแม้ของที่หวง เจ็บช้ำในทรวง ถูกหลอกลวงเหลือทวงคุณค่า |
เคยปลื้มกมลหลงจนลืมใจ อกเอ๋ยพอคิดได้ ช้ำสิ้นทั่วในอุรา |
ต้องเปลี่ยวลำพังเหมือนดังปักษา พลัดรังหลงทางกลางป่า คงสิ้นชีวาขาดหาย |
โอ้สุดสิ้นหวังเหมือนสิ้นใจ ฉันไม่ยอมน้อมใจ รับรักใคร่โดยง่าย |
หมดเยื่อหมดใยเหมือนใจสิ้นหมาย ชีวิตมลาย ไม่กลับกลายรักชายคนอื่น |
รักปักใจ
รัก ปัก ใจ โอ้ ใคร ช่วยฉันที | ทุก นาที ดังไฟ มาจี้ เหลือที่ บรรเทา |
อาวรณ์ใจร้อน รน | พะวักพะวง เหลือก่นซึมเซา |
ตรึงฤทัย ให้หลงเมา | หัวใจกระเส่า นี่ตัวเราหรือตัวใคร |
รักแรก ก็เพียงเห็นกัน | นึก นึกหวั่น กระสันหัวใจ |
พอรู้ตัว ที่ไหนได้ | เหลือจะหักใจ ให้บาง ให้เบา |
รัก ปัก ใจ ผู้ ใด ใครไหนเล่า | คิด บรรเทา เพราะความมึนเมาเหลือเป่าปัดไป |
นานวัน มันลุก ลาม | แม้นเรายิ่งห้าม ยิ่งหนักใหญ่ |
ตัวชักลอย เหาะเหินไป | ถึงไม่มีใครไม่เป็นไรยิ้มคนเดียว |
นี่ แหละ ที่เขาเรียกกัน | รัก รักมั่น กระสันมัดเกลียว |
ใจนั้นเต้น เป็นเสียงเดียว | รักแท้แน่เชียว ไม่ลืม ไม่เลือน |
รัก ปัก ใจ ผู้ ใด ใครไหนเล่า | คิด บรรเทาเพราะความมึนเมาเหลือเป่าปัดไป |
นานวัน มันลุก ลาม | แม้นเรายิ่งห้าม ยิ่งหนักใหญ่ |
ตัวชักลอย เหาะเหินไป | ถึงไม่มีใครไม่เป็นไรยิ้มคนเดียว |
นี่ แหละ ที่เขาเรียกกัน | รัก รักมั่น กระสันมัดเกลียว |
ใจนั้นเต้น เป็นเสียงเดียว | รักแท้แน่เชียว ไม่ลืม ไม่เลือน... |
รักเอย
...รัก เอย จริงหรือที่ว่าหวาน | หรือทรมานใจคน |
ความ รักร้อยเล่ห์ กล | รักเอยลวงล่อใจคนหลอกจนตายใจ |
รัก นี่ มีสุขทุกข์เคล้าไป | ใครหยั่งถึงเจ้าได้ คงไม่ช้ำ ฤดี |
รัก เอย รักที่ปรารถนา | รักมาประดับชีวี |
หวั่น ในฤทัยเหลือที่ | เกรงรักลวงฤดี รักแล้ว ขยี้ใจ |
ฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือฮือ | ฮือฮื้อฮือหื่อ ฮื้อ |
ขืน ห้าม ความรักคงไม่ได้ | กลัว หมอง ไหม้ ใจ สิ้นสุขเอย |
ฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ ฮือ | ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือ |
...รัก เอย รักที่ปรารถนา | รักมาประดับชีวี |
หวั่น ในฤทัยเหลือที่ | เกรงรักลวงฤดี รักแล้ว ขยี้ใจ |
ฮือ ฮื้อฮือฮือหื่อ ฮือฮือ | ฮือฮื้อฮือหื่อ ฮื้อ |
ขืน ห้าม ความรักคงไม่ได้ | กลัว หมอง ไหม้ ใจ สิ้นสุขเอย |
ฮือ ฮื้อ ฮือฮือหื่อ ฮือ ฮือ | ฮื้อ ฮือฮือหื่อ ฮือ... |
รักเอ๋ยรักข้า
คำร้อง ชอุ่ม ปัญจพรรค์ ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน
รักเอ๋ย รักข้า | คิดยิ่งเหมือนพา | กังวลอุรา หวนไห้ |
เดี๋ยวรัก ก็ชื่นฉ่ำใจ | เดี๋ยวรักก็จากไปไกล | ไม่เคยสดใส จีรัง |
รักเอ๋ย รักข้า | ครั้งแรกรักมา | เหมือนดังผกา สพรั่ง |
ดูรัก เจ้าช่างจริงจัง | แสนชื่นชุ่มฉ่ำประดัง | แทรกมนต์ที่ขลังอาจินต์ |
รักเอยรักจงอย่าเฉยแรมไกล | รักเจ้าโปรดเห็นดวงใจ | หวนไห้ถวิล |
น้ำตา ร่วงริน | ท่วมฟ้า ท่วมดิน | ไม่อยากจะกินจะนอน |
รักเอ๋ย รักข้า | เคล้าด้วยน้ำตา | หรือน้ำผึ้งพาใจอ่อน |
บางครั้ง รักเจ้ารุ่มร้อน | เดี๋ยวรัก ก็จากก็จร | อกเอ๋ย สะท้อนดวงใจ |
รักเอยรักจงอย่าเฉย แรมไกล | รักเจ้าโปรดเห็นดวงใจ | หวนไห้ถวิล |
น้ำตา ร่วงริน | ท่วมฟ้า ท่วมดิน | ไม่อยากจะกินจะนอน |
รักเอ๋ย รักข้า | เคล้าด้วยน้ำตา | หรือน้ำผึ้งพาใจอ่อน |
บางครั้ง รักเจ้ารุ่มร้อน | เดี๋ยวรัก ก็จากก็จร | อกเอ๋ย สะท้อนดวงใจ |
| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน | |