| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป |

ทาษชีวิต
คำร้อง แก้ว อัฉริยะกุล ทำนอง เวส สุนทรจามร
        ชาตินี้ฉันมีแต่ความผิดหวัง     บาปเคราะห์ประดังผิดหวังบ่อย ๆ
ฉันนี้เปรียบเหมือนลมลอย     ฉันเฝ้าคอยแต่ต้องปล่อยตามกรรมเวร
        ยากแค้นต้องทนไปจนชีพวาย     ชีวิตเป็นนายมุ่งหมายอยากเด่น
ฉันพบชีวิตลำเค็ญ     ต้องยอมยากเข็ญ     ชีวิตมันเป็นนายเรา
        เกิดแล้วตายไปมนุษย์ใด ๆ      เกิดมาเพื่อใช้กรรมเก่า
ยากแค้นทนเอาเพื่อทุกข์บรรเทา     ใช้บาปของเราเสมอไป
        เกิดแล้วต้องทนดิ้นรนไม่วาย     กว่าฉันจะตายไม่รู้เมื่อไหร่
คิดแล้วไม่นึกเสียใจ     จะเป็นไฉนเหมือนกันไปทุกคน

ทาษน้ำเงิน
คำร้อง เอิบ ประไพเพลงผสม ทำนอง เวส สุนทรจามร

         รำพึงครวญคิดชีวิตเรา     มีความโศกเศร้าหมองหม่น
ก็เนื่องด้วยความยากจน     จำทนทุกข์เวทนาอาวรณ์
         ระอาชีวิตยิ่งคิดไป     ไม่มีอะไรแน่นอน
มองดูโลกเหมือนละคร     ช่างหลอกหลอนคิดไปหัวใจระอา
         เราจึงเป็นทาษน้ำเงิน     ดำเนินชีวิตเหนื่อย อยากหนักหนา
ดำรงชีวิตเรื่อยมา     ปล่อยตามแต่ยถากรรม
         มองไปทางไหนก็ใช้เงิน     ไม่มีเพลิดเพลินสดชื่นฉ่ำ
น้ำตาอาบนองหมองคล้ำ     ต้องตรากตรำเพราะเราขัดสนจริง

เท่านี้ก็ตรม

      ...เท่านี้ก็ตรม หนักหนา แล้วยังจะมา ใช้ความเย็นชา ฆ่า ฉัน
อก ตรม ขม จิต คิดว่าสักวัน คิดว่าไม่นาน ฉันคงจะสิ้น
      เท่านี้ก็ตรม ไม่หาย ไหนยังต้องอาย แลัวยังไม่วาย ถวิล
ต้องซมซบหน้า น้ำตาร่วงริน ไหลโลมลงดิน เหมือนรินจากใจ
      อย่าเย้ย เยาะฉัน  แล้วคงสักวันเธอต้องร้องไห้
วันนี้ปรีดา พรุ่งนี้ปราชัย แล้วจะเจ็บใจ โทษ ใคร เล่าเธอ
      เท่านี้ก็ตรม เจ็บช้ำ ระกำเท่าใด ฉันยังอภัย ให้เสมอ
ไม่ เคย นึก โกรธ คิดลงโทษเธอ           แล้วใครเล่าเออ รักเธอเท่าฉัน
      อย่าเย้ยเยาะฉัน แล้วคงสักวัน เธอต้องร้อง ไห้ 
วันนี้ปรีดา พรุ่งนี้ปราชัย แล้วจะเจ็บใจโทษใครเล่าเธอ
      เท่านี้ก็ตรม เจ็บช้ำ ระกำเท่าใด ฉันยังอภัย ให้เสมอ
ไม่เคยนึกโกรธ คิดลงโทษเธอ แล้วใครเล่าเออ รักเธอเท่าฉัน...

ธรรมชาติสร้างสรรค์
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เวส สุนทรจามร

         โลกนี้ล้วนมีที่คู่กัน     ประสานสัมพันธ์คู่กันทั่วไป
รักล้ำดื่มด่ำลมพัดชื่นฉ่ำ     กว่าสิ่งอื่นใด     แผ่นดินกว้างไกลอีกไฟร้อนนั่น
         บนฟ้ามีจันทร์อันผ่องตา     ในน้ำมีปลาเกิดมาคู่กัน
ทั้งนี้ต่าง ๆ มืดมิดสว่าง     ค่ำคืนกลางวัน     คู่กันช่างสร้างสรรเคล้ากันมากมาย
         โอ้งามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์     มีเพศสัมพันธ์พร้อมสรรพามากหลาย
พร้อมสรรพทุกสิ่ง     มีหญิงมีชาย     เป็นเพื่อนคู่กายพักพิง
         มนุษย์ก็มีที่คู่ใจ     มีหญิงไว้ให้ผู้ชายแอบอิง
มนุษย์เพศเดียวคงเปล่า     ขาดที่พึ่งพิง     จึงสร้างผู้หญิงไว้อิงผู้ชาย

นางบุญใจบาป
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

         อันนางบุญใจบาป หลายหลากมากมาย     ผัวเมียเคียงกายใจง่ายมิได้อดสู
ใจเบาเบือนพอผัวลงเรือนไม่อยู่     คบชายเชิงชู้ทำไปไม่รู้เกรงกลัว
         บุญแต่ตัวดวงใจนั้นชั่วรวนเร     ศีลธรรมกาเม  ลุล่วงใช้เล่ห์หลอกผัว
เลวกระไรโธ่เอ๋ยทรามวัยใจชั่ว     น้อยหรือมีผัวยอมตัวให้ชูเชยชม
         กิริยาไร้ราคี   ใจน่าบัดสีไม่รักดีอย่างใคร
ทรามวัยร่านตามชู้ไป  ทอดกายให้ชายภิรมย์     ให้ชายอื่นชมรูปเริงรมย์ไร้อาย
         นางกากีดวงใจไร้ที่แน่นอน     มิควรอาวรณ์ เพราะจิตของหล่อนบาปหลาย
ใจเลวทรามนรกเวรกรรมทำง่าย     จิตใจบาปหลาย หมดยางสิ้นอายเลยนา

น้ำตาลใกล้มด
คำร้อง สุรัฐ พุกกะเวส ทำนอง เวส สุนทรจามร

         น้ำตาลใกล้มดใครอดงดได้     ดวงใจไหนจะเว้นให้ต้องผูกพัน
หญิงและชายเมื่ออยู่ใกล้กัน     ต้องเกิดกระสันต์สุดกลั้นใจภิรมย์
         น้ำตาลใกล้มด     สุดจะอดสุดที่มดจะข่ม
มองดูในอารมณ์     รสหวานรอให้ชม     ต้องชมภิรมย์หทัย 
ไหนเลยจักไม่เชยชิดก็ผิดไป     ชื่นจิตใจให้ฉ่ำทรวง
         อันความรัก     แรงนักสุดจะหักใจหวง
เฝ้าชะแง้แลพิศติดเตือน     อย่าเหมือนดังมดแฝงพวงมะม่วง
         ปองประโลมหวังชมผลพวง     ตราบล่วงสู่ดิน
แม้น้ำตาลใกล้มดอดกิน     สุดสิ้นเจ็บจินต์ตรมใจ

บุพเพสันนิวาส
คำร้อง สุรัฐ พุกกะเวส ทำนอง เวส สุนทรจามร

         เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด     บุพเพสันนิวาส     ที่ประสาทความรักภิรมย์
คู่ใครคู่เขา  รักเราคอยเฝ้าชม     คอยภิรมย์เรื่อยไป
         ขอบน้ำขวางหน้าขอบฟ้าขวางกั้น     บุพเพยังสรรค์ประสบ     ให้ได้พบสบรักกันได้
ห่างกันแค่ไหน     เขาสูงบังกั้นไว้     รักยังได้บูชา
         ความรักศักดิ์ศรี     รักไม่มีพรหมแดน     รักไม่มีศาสนา
แม้นใครบุญญา     ได้ครองกันมา     พรหมลิลิตพาชื่นใจ
         รักเหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ     ความรักเช่นนั้นให้โทษ     จะไปโกรธโทษรักไม่ได้
ไม่ใช่บุพเพ     สันนิวาตแน่ไซร้     รักจึงได้แรมรา

แผลรักในใจ
คำร้อง จุรี บุลประเสริฐ ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

         คมมีดบาดเพียงผิวกาย     ไม่ตายอาจหายมินาน
ใส่ยาสักเพียงขนาน     แผลก็ประสานแล้วจะหายพลัน
         ความรักหากจืดจางร้างไป     ปวดใจดังคนรักนั่น
แผลรักร้ายแรงมหันต์     แผลเดียวเท่านั้นพิษมันตรึงปักใจ
         ยามปวดเจ็บแปลบหนักหนา     สุดจะหายามารักษาได้
ร้อนรุมดังเพลิงสุมใจ     เจ็บปวดหัวใจเพราะรักร้างรา
         คอยรับช่วยเกลื่อนยาแผลรอย     เฝ้าคอยก็ไม่เห็นมา
โอ้รักไม่กลับมารักษา     ปวดอุราด้วยแผลรักในใจ

พรหมลิขิต
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

         พรหมลิขิตบันดาลชักพา     ดลให้มาพบกันทันใด
ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล     พรหมลิขิตดลจิตใจ     ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ
         เออชะรอยคงเป็นเนื้อคู่     ดวงอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ
แต่ครั้งแรกเมื่อพบเธอ     ใจนึกเชื่อเมื่อแรกเจอ     ฉันและเธอเป็นคู่สร้างมา
         เนื้อคู่ ถึงอยู่แสนไกล     คงไม่คลาดคลา
         มุ่งหวัง สมดังอุรา     ไม่ว่าใคร ๆ
         หากมิใช่คู่ครองแท้จริง     จะแอบอิงรักยิ่งปานใด
ยากนักที่จะสมใจ     คงพบเหตุอาเภทภัย     พลัดกันไปทำให้คลาดคลา
         เราสองคนต้องเป็นเนื้อคู่     จึงชื่นชูรักใคร่บูชา
นี่เพราะว่าบุญหนุนพา     พรหมลิขิตขีดเส้นมา     ชี้ชะตาให้มาร่วมกัน
         คนบางคนต้องเป็นเนื้อคู่     เพียงแต่ดูรู้ชื่อโดยพลัน
ก็รู้สึกนึกรักกัน     จนฝันใฝ่ใจผูกพัน     แม้ไม่ทันจะเห็นรูปกาย
         ฉันเชื่อ  เพราะเมื่อพบเธอ     ฉันเพ้อมากมาย
         เฝ้าหลง  พะวงไม่หน่าย     ไม่ห่างกมล
         พรหมลิขิตบันดาลทุกอย่าง     เป็นผู้วางหนทางปวงชน
ได้ลิขิตชีวิตคน     นำเนื้อคู่มาเปรอปรน     ทั้งยังดลเธอให้กับฉัน

พรานทะเล
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

        ชีวิตที่คร่ำกลางน้ำเวียนวน     ลอยล่องตามชลไม่พ้นทนไป
อยู่กับเรือเบื่อใจ     ผองพรานทะเลเร่ไป  อยู่ห่างไกลกลางสายชล
        มองน้ำตรงหน้าจดฟ้าไกล ๆ      ว้าเหว่ดวงใจไม่เห็นผู้คน
คลื่นและลมสู้ทน     ทุกข์ใจปานใดไม่บ่น  สู้แดดฝนลำบากกาย
        อยู่หว่างทะเลนาน ๆ     ท้องเรือเป็นบ้านท้องธารเรือนตาย
สิ้นชีพสิ้นชลเคราะห์ร้าย     ศพฝังโดยง่าย  ฝากเอาไว้ใต้คงคา
        เพียงเห็นริมฝั่งสักครั้งดีใจ     มาบกทีไรให้แสนปรีดา
ใกล้แผ่นดินเข้ามา     เหมือนมีวิมานตรงหน้า     ปลื้มหนักหนาแทบจูบดิน

พิษสวาท
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

         พิษสวาทนี้มันประหลาดพิกลยิ่ง     อย่าเพิ่งท้วงติง  ฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนอย่าเขลา
เกิดขึ้นด้วยใจมึนเมา โดยมากหนุ่มสาวยังเยาว์     มักโดนเข้าเหลือที่จะปัดจะเป่าไป
         พิษสวาทนี้มีอำนาจแสนเร็วพลัน     หักห้ามมิทัน  เร็วกว่าน้ำมันไปก่อกับไฟ
รวดเร็วกว่าสิ่งใด ๆ เร็วกว่าสายฟ้าเร็วไว     ปุ๊บเดียวตรึงใจเผลอตัวเมื่อไหร่เป็นได้การ
         ใจทุรนทุราย     กระวนกระวาย  มันเกิดได้หลายประการ
แรกมันเสียวมันซ่าน มันชักงุ่นง่าน     แล้วมันก็เพ้อพร่ำพล่านเฉยชา
         พิษสวาทมิควรประมาดนะเราท่าน     หากปล่อยไว้นาน  กำเริบร้าวรานยิ่งพล่านอุรา
เกิดความเสื่อมทราปัญญา     สติสมองมึนชา     เพ้อพร่ำวาจาเหมือนดังคนบ้าร่ำไป
         พิษสวาทพลิกแพลงประสาทและใจคน     ไม่เคยซุกซน  ก็กลับลุกลนเป็นเด็กไปได้
ที่เปลียวก็กลับซึม  ไปที่ขลาดก็หาญชาญชัย     เล็กทำเป็นใหญ่  พลิกแพลงไปได้มิได้กลัว
         พิษสวาทพลิกวาจาสัตย์  คิดลวงลม     ตบตาสองคม โกหกพกลม เสียสัตย์แก่ตัว
ด้วยความมืดหน้ามัวตา     กงจักรกับเห็นเป็นบัว     หลงเริงใจตัว  หลงเดินทางชั่วที่บาปกรรม
         ยอมสละหมดตัว     ศีลธรรมไม่กลัว แม้ผิดเมียผัวยังทำ
พลาดจนพลั้งลงต่ำ     พอล้มจนคว่ำ  ถึงกับต้องคร่ำน้ำตา
         พิศสวาทนี้มีอำนาจเหนือใจคน     มันแปลกพิกล  ต้องถูกทุกคนมิใช่กล่าวหา
หากใครไม่เคยโดนมา     วันหนึ่งคงถึงเวลา     เห็นกันทันตาเสียแรงจะว่าให้ป่วยการ

เพียงแค่นี้

       เพียง แค่นี้ ยังผิดวาจา     ต่อไป ถึงวัน ข้างหน้า     จะรัก ตลอด อย่างไร
จะฝาก ใจฝัง ก็ยัง กริ่งเกรง หัวใจ     ผูกพัน รักกัน ใหม่ใหม่     แต่ หัวใจ เธอไม่ มั่นคง
       เพียง แค่นี้ ยังหลอก ตัวเอง     ต่อไป ฉันเกรง จะหลอก     ความรัก ไม่ซื่อ ไม่ตรง
ไม่อยาก จะคิด สะกิด ใจคอย พะวง     แค่นี้ เขาทำ ได้ลง     อย่า พะวง ว่า จะกลับคืน
       ลืม ฉัน เสียเถิด ที่รัก     ว่าเรา ไม่เคย รู้จัก     สัก - วันหนึ่ง คงคลาย ขมขื่น
ฉันเจ็บ และจำจะทำ เฝ้ากลม เฝ้ากลืน     แค่นี้ ก็พอ จะฝืน     อัน รักอื่น มิ ปรารถนา
       เพียง แค่นี้ ยังบาด อารมณ์     เจ็บจำ ช้ำใจ เหลือข่ม     จนตรม ตาย จาก อุรา
ห่างกัน เพียงไหน ยิ่งไกล จะโม - ทนา     แค่นี้ ช้ำ ไป จนกว่า     สิ้น ชีวา นั่นแหละ คงลืม ลืม
       ลืมฉัน เสียเถิด ที่รัก     ว่าเรา ไม่เคย รู้จัก     สัก - วันหนึ่ง คงคลาย ขมขื่น
ฉันเจ็บ และจำ จะทำ เฝ้ากลม เฝ้ากลืน     แค่นี้ ก็พอ จะฝืน     อัน รักอื่น มิ ปรารถนา
       เพียง แค่นี้ ยังบาด อารมณ์     เจ็บจำ ช้ำใจ เหลือข่ม     จนตรม ตาย จาก อุรา
ห่างกัน เพียงไหน ยิ่งไกล จะโม - ทนา     แค่นี้ ช้ำ ไป จนกว่า     สิ้น ชีวา นั่นแหละ คงลืม

ฟังดนตรีเถิดชื่นใจ

     ...ชน ใด ไม่ มี ดนตรีกาล     ในสันดาน เป็น คน ชอบ กล นัก
อีก ใคร ฟังดนตรี ไม่เห็น เพราะ     เขานั้นเหมาะ คิด ขบถ อัปลักษณ์
ฤา อุบาย มุ่ง ร้าย ฉมัง นัก     มโน หนัก มืด มัว เหมือนราตรี
แหละดวงใจ ย่อม ดำ สก ปรก     เหล่านรก เช่น กล่าว มานี่
ไม่ควรใคร ไว้ ใจ ใน โลก นี้     เจ้า จง ฟังดนตรี เถิด ชื่น ใจ

ฟ้ามิอาจกั้น

     ...ถึงฟ้าจะกั้น ให้ฉันและเธอ ไกลกันสุดตา     หรือว่าภูผา ทอดยาวขวางหน้า บังตาแค่ไหน
แม้มีทะเล เหลือหยั่งคะเน มากั้นเราไว้     อย่าได้ตกใจ ถึงห่างแค่ไหน ก็ไม่สำคัญ
     อำนาจใดใด ที่ในโลกนี้ ไม่มีความหมาย     แม้แต่ภูผา ก็อาจทะลาย มิอาจขวางกั้น
รักเรามีปีก บินหลีกข้ามฟ้า ไปมาหากัน     ขอให้รักฉัน แน่นอนเท่านั้น ฟ้าดินเกรงกลัว
    ถึงฟ้าจะกั้น ให้ฉันและเธอ ไกลกันสุดตา     หรือว่าภูผา ทอดยาวขวางหน้า บังตาแค่ไหน
แม้มีทะเล เหลือหยั่งคะเน มากั้นเราไว้     อย่าได้ตกใจ ถึงห่างแค่ไหน ก็ไม่สำคัญ
    อำนาจใดใด ที่ในโลกนี้ ไม่มีความหมาย     แม้แต่ภูผา ก็อาจทะลาย มิอาจขวางกั้น
รักเรามีปีก บินหลีกข้ามฟ้า ไปมาหากัน     ขอให้รักฉัน แน่นอนเท่านั้น ฟ้าดินเกรงกลัว...

| หน้าแรก | ย้อนกลับ | หน้าต่อไป | บน |