| ...เจ้าคนหนึ่งทำดีเป็นทีนาย | เด็กนั่งหัวนั่งท้ายพายเรือซ่า |
| เข้าแพแขกถือถุงเข้าพูดจา | ว่าแม่ขาผ้าดีมีมาดู |
| ว่าคุณตาบ้านโน้นท่านใช้มา | ให้ซื้อผ้าเนื้อดีสักสี่คู่ |
| ทำแลแลแก้ถุงนับเงินดู | ให้พอรู้ก็รัดในบัดใจ |
| ทำพูดจาว่าผ้านี้ดีหนักหนา | แต่คุณตาท่านยังหาเห็นไม่ |
| ราคาผ้าของท่านสักเท่าไร | ข้าไปบอกท่านแล้วจะกลับมา... |
| ...แต่พอลงราคาว่าจะซื้อ | แล้วกลับพาถุงเงินที่ถือนั่น |
| ขยับตัวลงเรือด้วยเร็วพลัน | ถ้าดิฉันไปแล้วจะกลับมา |
| พายไปหน่อยหนึ่งพอลับก็กลับคืน | เอาถุงใส่ลูกปืนมาวางว่า |
| เอานี่ไว้เถิดนะแม่เอาผ้ามา | จะไปให้คุณตาดูให้เต็มใจ |
| นางชาวแพส่งผ้าให้สี่ผืน | มันก็คืนไปหายหาเห็นไม่ |
| คอยแลแลก้นถุงดูข้างใน | ก็ตกใจว่ากูนี้เสียกล... |
|
|
เห็นสองคนชาวเหนือเดินมาหน้า |
| เข้าพูดผลอล่อลวงเป็นมารยา | ว่าท่านมาแต่ไหนทั้งสองนาย |
| เจ้าสองคนบอกว่ามาแต่เหนือ | มันก็ตามถึงเรือและของขาย |
| แล้วก็พูดต่างต่างตามแยบคาย | กล่าวอุบายให้สนิทเป็นมิตรกัน... |
| ...พอถึงร้านตีนตะพานวัดสระเกศ | ก็ก่อเหตุเกิดโกงขึ้นที่นั่น |
| จึงว่าเพื่อนหยุดก่อนอย่าช้าพลัน | เราชวนกันกินขนมให้สบาย |
| ข้าส่งเงินเขาถือติดมือมา | กินน้ำยาเถิดหรือซื้อง่ายง่าย |
| จึงพากันเข้านั่งทั้งสามนาย | ว่าแม่ยายฉันจะซื้อขนมจีน... |
| ...ทั้งสามนายก็ขยายขนมกิน | อ้ายแสนลิ้นมันก็แลดูตะวัน |
| ว่าเวลาพอควรจวนจะเพล | ออชีต้นของเจ้าเณรอยู่ที่นั่น |
| จะเอาไปถวายให้ฉันทัน | เห็นจะทันดอกกระมังท่านยายขา... |
| ...สักเฟื้องหนึ่งเกิดนะแม่อย่าให้ช้า | หยิบโต๊ะมาใส่ไปเห็นจะดี |
| ยายศรัทธาพาซื่อคิดไม่ทัน | จึงเรียกกันว่าเอาโต๊ะออกมานี่ |
| ช่วยจัดแจงแต่งใส่ให้เขาที | เห็นพอดีแล้วก็ส่งให้ทันใด |
| เจ้าตัวดีได้โต๊ะก็ออกมา | ก็บอกว่ากุฎีไม่ไกลใกล้ |
| ถวายแล้วก็จะกลับมาบัดใจ | เจ้ากินไปพลางเถิดนะเพื่อนเรา... |
| ...เจ้าชาวเหนือเชื่อคำทั้งสองคน | ไม่รู้แห่งรู้หนว่าไปไหน |
| กินแล้วนั่งแลแลเห็นนานไป | ก็จนใจว่าข้าจะขอลา |
| ยายก็ว่าเจ้านี่จะไปไหน | ข้าจะไปฟากข้างโน้นริมป่าช้า |
| จะไปไหนเพื่อนกันยังไม่มา | หยุดอยู่ท่ากันก่อนอย่าเพ่อไป |
| ไม่รู้จักรู้จี่นะแม่เฒ่า | ตัวข้าเจ้าชาวเหนือไม่รู้ใต้... |
| ...ว่าที่นี้หลงให้ไปหนักหนา | นี่แม่เฒ่าเงินตราเอามานี่ |
| แต่เกิดมาไม่เคยเห็นอ้ายอัปรีย์ | มันเต็มทีเล่ห์ร้ายลวงหลายกล |
|
|
มันก็คิดเที่ยวหาอยู่เสือกสน |
| ได้กระทอผ้าขาดเห็นชอบกล | กับย่ามคนเขาตายสะพายมา |
| พบเรือพระจอดจวนจะใกล้ไป | ก็นั่งไหว้ไต่ถามที่ริมท่า |
| ถามถึงที่จะไปทั้งที่มา | แล้วบอกว่าจะเดินสารเจ้าคุณไป |
| เอากระทอแอบวางข้างประทุน | ว่าเป็นบุญของดิฉันเดินสารได้... |
| ...เงินฉันสามสี่บาทเอาติดมา | จะซื้อผ้าไปฝากเจ้าลูกชาย |
| นายเขาเรียกค่าอิฐคิดหักลด | ก็พอหมดสิ้นกันทั้งซื้อจ่าย |
| ยืมปัจจัยสักบาทซื้อผ้าลาย | เอาไปฝากลูกชายพอชื่นใจ |
| พอได้เงินมันก็ลามาทันที | ว่าร้านที่ตรงนี้หาช้าไม่ |
| ส่วนพระสงฆ์คอยคอยเห็นช้าไป | ก็ว่านี่อย่างไรมันไม่มา |
| ชักกระทอมาดูไม่มีดี | แต่ล้วนผ้าของผีที่ป่าช้า |
| อ้ายขี้ฉ้อเอากระทอมาปิดตา | กูคิดว่าคนดีมาเข้าเดือน |
| อ้ายคนหนึ่งขี้ฉ้อต่อประสม | ช่างแต่งลมนี่กระไรไม่มีเหมือน |
| เดินตรงขึ้นกุฏีไม่มีเชือน | ดูเหมือนคนอย่างคุ้นที่เคยมา... |
| ...ฉันขึ้นไปอยู่เหนือนานนักหนา | พึ่งลงมาบางกอกเมื่อคราวนี้ |
| ให้คิดถึงเจ้าคุณนี้เต็มที | พอถึงนี่ดิฉันก็ตรงมา |
| ข้ารำลึกไม่ได้เลยนะเจ้า | ลูกศิษย์เราสิมากเป็นหลายหน้า |
| ดิฉันได้น้ำผึ้งขี้ผึ้งมา | แต่ทว่าโต๊ะพานนั้นไม่มี |
| จะขอยืมเอาโต๊ะในนี้ไป | พ่อเณรใหญ่หยิบขันนั้นมานี่ |
| พ่อลงไปด้วยกันกับฉันที | เรือออกที่สะพานไม่ใกล้ไกล |
| ครั้นลงมาถึงต้นตีนสะพาน | ก็บอกว่าดิฉันเพิ่งคิดได้... |
| ...พ่อเณรโปรดไปเอาตะลุ่มมา | ตรงขันนั้นให้เอามาไว้นี่ |
| เจ้าเณรใหญ่ส่งขันให้ทันที | ก็วิ่งรี่รับไปกุฏีพลัน... |
| ...มันก็โผนไปเสียด้วยเร็วพลัน | ทีหลังนั้นเณรใหญ่ก็ลงมา |
| เที่ยวไถ่ถามตามเรือก็ไม่เห็น | เอ๊ะทำเข็ญกูแล้วไอ้ขี้ข้า... |
|
|
เที่ยวเกะกะกำเงินขยับเขย่า |
| เห็นกุฏีเด็กน้อยนั่งซึมเซา | จึงตรงเข้าไปใกล้ก็ให้ดู |
| แล้วถามว่าเจ้าคุณไปข้างใหน | จะเอาเงินมาให้พ่ออ้ายหนู... |
| ...ไปเถิดหนาข้าจะช่วยดูกุฏี | ข้าอยู่นี่แล้วที่ใหนใครจะมา |
| เจ้าเด็กน้อยไว้ใจนึกว่าจริง | ก็ลุกวิ้งไปบอกเหมือนคำว่า |
| อ้ายเจ้ากลก็ขึ้นค้นเอาผ้าตรา | พระก็มาถึงบันใดใกล้กุฏี |
| มันก็ลงจากบันใดด้วยเร็วพลัน | พระกลันเข้าจะจับวิ่งหนี... |
| ...ครั้งหนึ่งพระจำวัดสงัดอยู่ | มันก็จู่ขึ้นไปหาพูดจาอ้อ |
| ทำทีศิษย์ดีสนิทสนมพอ | แล้วทำรอที่จะคลานเข้าหาครู |
| ชวนเข้าห้องนอนเล่นแลเห็นผ้า | แล้วหลับตาทำนิ่งหายใจฟู่ |
| เจ้าเด็กคิดว่าศิษย์สนิทครู | ก็ออกอยู่นอกชานสำราญใจ |
| มันลักผ้าคาดเอวเข้าเร็วผลัน | เอาผ้าพันผูกแผลแก้สงสัย |
| แล้วออกมาร้องว่าจะลาไป | เวลาไหนเล่าท่านจะคืนมา |
| ลงกุฏีรับรัดไม่รารอ | อ้ายนี่คอเคยลักมาหนักหนา |
| เจ้าเด็กเราเล่าไว้เป็นราคา | อย่าคบค้าพาคนขึ้นกุฏี |
|
|
กล่าวอุบายหลอกลวงไปตามที่ |
| เอาง่าเถะห่อใส่ในสำลี | ว่าพระนี้เขาฝากดิฉันมา |
| เจ้าของเขาขัดเข้าเขาจะขาย | จะเอาเงินไปให้นายทีตีนท่า |
| พระหลงเชื่อซื้อเก็บไว้บูชา | ด้วยเจตนาหลงซื้อจึงเสียการ |
| บ้างก็มีเขี้ยวหมูมาอุดอัด | แล้วผูกรัดถักเกลียวเกี่ยวประสาน |
| บ้างก็เอาหินผาศิลาดาน | มาทำเทียมสัณฐานเป็นเครื่องราง |
| ลางทีเอาเขี้ยวงามาทำคด | แล้วกล่าวปดด้วยอุบายเป็นหลายอย่าง |
| อันโกหกแยบคายเป็นหลายทาง | ถ้ารู้บ้างแล้วจึงพ้นจากกลมัน |
| ถ้าหลงลิ้นแล้วก็สิ้นเพราะคำคน | ถ้าหลงกลแล้วก็เสียเป็นแม่นมั่น |
| เรากล่าวกลอนสอนใจไว้ทุกวัน | แต่ล้วนขันไปทุกข้อแต่พอมี |
| อันคนเราเจ้าเล่ห์มีสุดแสน | ถ้ามันแกนแล้วก็ยิ่งกว่าภูติผี |
| ทั้งลวงล่อฉ้อฉลทำกลดี | เห็นสุดทีที่จะหยั่งน้ำใจคน |
| ถึงนักปราชผู้ที่ฉลาดเฉลียวคิด | ก็หยั่งจิตไม่ได้ไม่เห็นหน |
| แต่ว่าดีที่ระวังระไวตน | จึงค่อยพ้นคนหลอกนี่ซอกซอน |
| ลางทีเล่าก็เสียเพราะคนซื่อ | ไปเชื่อถือคนคดสบถร่อน |
| มันกล่าวยอล่อลวงแล้วไหว้วอน | ช่วยแก้ร้อนมันก็ร้อนเมื่อปลายมือ |
| ถึงเพื่อนผูกสังขาร์คณามิตร | ถ้าสิ้นคิดมันก็คดเอาซื่อซื่อ |
| ต้องเสียทรัพย์ยับยุบจนสิ้นมือ | เพราะพาซื่อถือกันว่ามันดี |
| มันทอดสนิทคิดล่อแต่พอได้ | ครั้นทุกข์ภัยใกล้เคียงก็เลี่ยงหนี |
| จะหาซื่อสัตย์ตรงที่คงดี | เห็นท่วงทีที่จะได้ไม่มากมาย |
| อันพ่อแม่ครูบานี้สุดแสน | ถึงทุกข์โทษคับแค้นไม่หนีหาย |
| สู้เสียทรัพย์ยับเยินทั้งร่ายกาย | ลางทีตายเสียด้วยลูกไม่หลีกเลย |
| อันว่าสัตว์ในแดนดินสิ้นทุกตัว | ถ้าลูกแล้วดีชั่วไม่เพิกเฉย |
| แต่ลูกรักนี่มันไม่เห็นเลย | จึกเพิกเฉยลืมคุณที่เลี้ยงมา |
| หนึ่งคำสอนพ่อแม่ที่แท้เที่ยง | มันหลีกเลี่ยงเสียไม่เอาแต่สักท่า |
| ถึงคำครูสอนทีหลังมา | ก็ไม่ฟังวาจาสักสิ่งเดียว |
| มาเข้าวัดเรียนวิชาหาความรู้ | เณรใหญ่อยู่วัดวาค่ำลงเที่ยว |
| เรียนวิชาความรู้แต่สิ่งเดียว | คิดซ่อนเกี้ยวสีกาทุกท่าไป |
| ลางทีต่อยตีกันเพราะผิดพ้อง | จนก่อเหตุกึกก้องลุกลามใหญ่... |
| ...มันมักมากเหลือล้นคนเลวทราม | ก็เพราะความวิปริตเล่นผิดคน |
|
|
เที่ยวซอกซอนนอนกินทุกแห่งหน |
| ดูแต่การงานสนุกทุกตำบล | ทำให้คนเขาระอาด้วยกล้ามือ |
| คุมพวกเพื่อนกินเหล้าแล้วเที่ยวมา | ทำเร่ร่าด่าไปด้วยใจดื้อ... |
| ...แกล้งกระทำให้เขาลือผีมือพาล | ให้ขย้านกลัวเกรงเป็นไหนไหน |
| ที่จะลักก็จะลักสบายใจ | ที่จะไปจะได้ไปสบายตัว... |
| ...บ้างครูซื่อถือว่าลูกศิษย์ตรง | มันปลิ้นปลงลอบขนเอาจนสิ้น |
| มักลักเลี้ยงพวกเพื่อนเป็นอาจิณ | ทั้งเหล่าฝิ่นกัญชาทุกหน้าไป... |
| ...ลางทีถือมีดไม้และขวานหมู | เที่ยวเร่อยู่กลางถนนที่คนห่าง |
| เห็นได้ทีดีฟันคนเดินทาง | เป็นโจรกลางบ้านเมืองจนเลื่องลือ |
| ลางทีเล่าเข้าปล้นตำบลบ้าน | แล้วเที่ยวผ่านหนีไปไม่อึงอื้อ... |
| ...จะร่ำเรื่องคนพาลสันดานคด | เห็นไม่หมดสิ้นลงที่ตรงไหน |
| เอาแต่พอฟังรู้เป็นครูไว้ | จะร่ำไปก็พ้นปัญญาญาณ... |
|
|
ย่อมเห็นรู้จึ่งจะสอนได้ถ้วนถี่ |
| ่จงอุตส่าห์ประพฤติที่ความดี | ที่ชั่วหนีเสียให้ไกลอย่าไกล้เลย |
|
|
เป็นเหตุให้ฉิบหายนะท่านเอ๋ย |
| คนดีดีท่านไม่ชอบอารมณ์เลย | เพราะท่านเคยเห็นแล้วแต่หลังมา |
| แต่เสียทรัพย์ยับยุบเพราะบ่อนเบี้ย | จนขายลูกขายเมียเสียหนักหนา |
| เจ้ายาฝิ่นเล่าก็รักเต็มตำรา | เจ้ากัญชาเล่าก็เชือนไม่มีดี |
| เจ้าน้ำเมาเล่าก็มักให้เกิดความ | เขายิ่งห้ามก็ยิ่งฮึกไม่ถอยหนี |
| ทั้งสี่สิ่งยิ่งร้ายในโลกีย์ | ถ้ารักดีแล้วก็อย่ากระทำเลย... |